วันนี้ 06 ก.ค. 2562 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า เจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กองกำลังสุรสีห์ เดินทางลงพื้นที่ติดตามระดับน้ำในลำห้วยโรคี่ ภายหลังจากเกิดฝนตกหนักติดต่อกันหลายชั่วโมงช่วงรุ่งเช้าของวันนี้ พบน้ำในลำห้วยโรคี่ช่วงที่ไหลผ่านบริเวณหน้าหน่วยพิทักษ์ป่าตะเคียนทอง และ หลังวัดสะเนพ่อง มีสีขุ่น พร้อมทั้งมีเศษกิ่งไม้ลอยลงมาเป็นระยะๆ ขณะที่ระดับน้ำสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยระดับน้ำยังเหลือประมาณ 170 ซมจึงจะล้นตลิ่ง ขณะที่ช่วงเวลา10.00 ฝนได้หยุดตกแต่สภาพอากาศยังคงปิดมืดคลึ้มอยู่

 

ด้านพระวิงไข่  จิตตมโน      พระลูกวัดวัดสะเนพ่อง เปิดเผยว่า จากประสบการณ์น้ำท่วมปีที่แล้ว ทำให้ทางวัดซึ่งตั้งอยู่ริมน้ำและเป็นจุดที่หากเกิดน้ำท่วมในหมู่บ้าน วัดจะเป็นจุดแรกที่น้ำไหลบ่า ตนเองจึงได้เฝ้าติดตามระดับน้ำพร้อมทั้งทำพิกัดไว้ที่ริมน้ำ ทำให้ทราบว่าจนถึงขณะนี้ระดับน้ำในลำห้วยโรคี่สูงขึ้นกว่า 50 ซม..และยังคงสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โชคดีฝนหยุดตก แต่พื้นที่ต้นน้ำฝนตกหรือไม่ ไม่อาจทราบได้ แต่สังเกตจากสีน้ำที่ขุ่นและมีเศษกิ่งไม้ที่ไหลมากับน้ำ ทำให้ทราบได้ว่าในพื้นที่ต้นน้ำมีฝนตกหนักและน้ำป่ากำลังจะมาเราไม่รู้ว่าปริมาณมากขนาดไหน จึงต้องเตรียมพร้อมหากน้ำมาไม่แรงมากเหมือนปีที่ผ่านมาก็ไม่น่ากลัว แต่หากมามากและรุนแรงต้องหนีเอาตัวรอดไว้ก่อน

 

เช่นเดียวกันนายเจริญพงษ์ กันทรพิมาน ชาวบ้านสะเนพ่องที่ยังคงไม่ลืมเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ 20 ก.ค.61 ที่ผ่านมา จึงทำให้ทุกคืนที่มีฝนตกหนักในพื้นที่ ทุกคนในหมู่บ้านจะช่วยกันไปเฝ้าสังเกตระดับน้ำ เพื่อความปลอดภัยของทุกคน โดยช่วงเช้าวันนี้ระดับน้ำฝนที่วัดได้จาก ที่วัดน้ำฝนบริเวณหน้าหน่วยพิทักษ์ป่าสะเนพ่อง วัดได้ 50 มิลลิเมตร แม้ยังอยู่ในระดับที่ปลอดภัย แต่ปริมาณฝนที่ตกบริเวณป่าต้นน้ำ มากน้อยเท่าไร ไม่มีใครรู้ได้ การเฝ้าสังเกตระดับน้ำในลำห้วย และเตรียมพร้อมหากต้องอพยพเมื่อน้ำป่ามา คือสิ่งที่ชาวบ้านทุกคนทำได้ในขณะนี้

 

นายปกรณ์  กรรณวัลลี นอภ.สังขละบุรี ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ในการประชุมประจำเดือน เมื่อวันที่4 ที่ผ่านมาได้สั่งกำชับให้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้นำชุมชน ทุกหมู่บ้านที่เป็นพื้นที่เสียง เฝ้าติดตามสภาพอากาศและคำเตือนจากหน่วยงานราชการ เนื่องจากสังขละบุรี มีฝนตกติดต่อกันมากว่า1เดือนแล้ว หากมีฝนตกหนักติดต่อกัน2วันขึ้นไป และระดับน้ำสูงขึ้น ให้รีบทำการอพยพ ชาวบ้านที่มีความเสี่ยงไปยังพื้นที่ๆปลอดภัย โดยเฉพาะพื้นที่ หมู่1บ้านสะเนพ่อง หมู่ 2 บ้านกองม่องทะ และหมู่3 บ้านเกาะสะเดิ่ง ของตำบลไล่โว่ ที่เป็นพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมใหญ่ในปีที่ผ่านมา และเป็นพื้นที่ห่างไกลธุรกันดาร โดยเฉพาะบ้านเกาะสะเดิ่ง ซึ่งตอนนี้ไม่สามารถเดินทางได้ด้วยรถยนต์ ทั้งอำเภอ มีความพร้อมหากเกิดเหตุน้ำท่วม

 

สำหรับสำนักงานป้องกันภัยจังหวัดกาญจนบุรี ได้ออกเอกสารไปยังอำเภอต่างๆ ในพื้นที่ให้เฝ้าระวังน้ำป่าไหลหลาก ให้ผู้นำท้องถิ่นแจ้งเตือนประชาชนที่มีภูมิลำเนาอยู่ตามเชิงเขา เส้นทางไหลของน้ำให้ขนย้ายสิ่งของไปไว้ในพื้นที่สูงเพื่อความปลอดภัย และให้เฝ้าติดตามข่าวต่อเนื่อง อีกทั้งให้เฝ้าดูสีของน้ำที่ไหลลงมา หากมีสีขุ่นแดงให้เตรียมออกไปอยู่ในพื้นที่เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน./