บุกจับ "สองสามีภรรยา" ตระเวนงัดกุฏิลักทรัพย์พระหลายวัด พร้อมยึดของกลางจำนวนมาก
15 พ.ค. 2563, 08:10
เมื่อวันที่ 14 พ.ค.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.ต.อ.รัฐพล ใจหวัง รอง สว.สืบสวน สภ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ และพนักงานสอบสวน สภ.ขุขันธ์ พร้อมด้วย กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ได้นำตัวนายสมารถ หรือเบ๊นซ์ โพนสุวรรณ อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 70/1 หมู่ 1 ต.พิมาย อ.ปรางค์กู่ จ.ศรีสะเกษ และ น.ส.นารีรัตน์ หรือตุ้ม เพ็งแจ่ม อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 34/1 หมู่ 15 ต.สำโรงปราสาท อ.ปรางค์กู่ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นสามีภรรยา และเป็นผู้ต้องหาคดีลักทรัพย์ของพระสงฆ์ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยนำตัวผู้ต้องหาทั้งสอง ไปที่วัดบ้านแขว หมู่ 3 ต.ห้วยใต้ อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นสถานที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวไปชี้สถานที่เกิดเหตุที่ผู้ต้องหาทั้งสองได้ทำการลักทรัพย์ของพระและเณรภายในกุฎิของวัด ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 8 พ.ค.63 ที่ผ่านมา พระเณรของวัดบ้านแขว ได้แจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.ขุขันธ์ว่า ช่วงระหว่างเวลาประมาณ 07.00 – 08.00 น. ขณะที่พระและเณรในวัดกำลังประกอบกิจของสงฆ์ ได้มีคนร้ายเป็นชายและหญิง จำนวน 2 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาจอดไว้ใกล้กับบริเวณกุฎิพระหลังที่ 3 ของวัดบ้านแขวจาก นั้นได้ตระเวนงัดกุฎิพระที่อยู่ภายในวัด ได้ทรัพย์สินไปหลายรายการ ทั้งเงินสด จำนวนประมาณ 10,000 บาท โทรศัพท์มือถือ พระเครื่องกว่า 30 องค์ สมุดบัญชีธนาคาร และบัตรประจำตัวประชาชนของพระและเณรที่เก็บไว้ โดยมีผู้เสียหาย ประกอบด้วย พระโพธิ์ ศรีจันทร์ อายุ 73 ปี พระแดนสวง สุภาพ อายุ 24 ปี และสามเณรก้องภาพ ทุมมูล อายุ 17 ปี ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ขุขันธ์ ได้ทำการตรวจสอบจากกล้องวงจรปิด จึงได้เบาะแสคนร้ายและสามารถติดตามจับกุมคนร้ายได้ทั้ง 2 คน พร้อมของกลางทั้งหมดที่ถูกลักเอาไป
นายสมารถ หรือเบ๊นซ์ โพนสุวรรณ อายุ 28 ปี ให้การรับสารภาพว่า ก่อนหน้านี้ตนเคยถูกจำคุกข้อหาลักทรัพย์มาแล้ว เพิ่งจะพ้นโทษออกมาไม่นาน จากนั้นได้ไปประกอบอาชีพเป็นช่างเชื่อมโลหะอยู่ที่กรุงเทพฯ ต่อมาไม่มีงานจึงถูกเลิกจ้าง ตนจึงได้กลับมาอยู่บ้านที่ อ.ปรางค์กู่ จ.ศรีสะเกษ และเนื่องจากว่าไม่มีเงินใช้จ่ายในการดำรงชีวิตประจำวัน อีกทั้งตนต้องเสพยาบ้าเป็นประจำ จึงได้ร่วมกับภรรยาขับขี่รถจักรยานยนต์ออกตระเวนหาลักทรัพย์ตามวัด โดยจะเลือกช่วงเวลา 06.00 – 08.00 น.ซึ่งเป็นช่วงที่พระและเณรออกจากกุฏิเพื่อไปประกอบกิจของสงฆ์ จะพากันเข้าไปงัดกุฎิรื้อค้นเอาทรัพย์สินของพระ แล้วหลบหนีไป ได้เงินมาก็จะนำเอาไปใช้จ่ายและซื้อยาบ้ามาเสพ ตระเวนงัดกุฎิพระมาแล้วหลายอำเภอและวัดล่าสุดคือที่วัดบ้านแขว จนกระทั่งมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ขุขันธ์ ตามจับกุมได้ในที่สุด ซึ่งพนักงานสอบสวน สภ.ขุขันธ์ ได้ตั้งข้อหาว่า ลักทรัพย์ ควบคุมตัวผู้ต้องหาและของกลางไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป