วันนี้ (16 พ.ค. 63) ร้อยตำรวจเอก พงศกร ขวัญเมือง โฆษกกรุงเทพมหานคร กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 12/2563 ที่มี พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธาน ว่า กรุงเทพมหานคร จะเพิ่มความคุมเข้มมาตรการป้องกันการแพร่กระจายของโรคโควิด-19 มากขึ้น หลังศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 (ศบค.) ได้ใช้มาตรการผ่อนปรนระยะที่ 2 อนุญาตให้เปิดห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า สถานออกกำลังกายบางส่วน ตั้งแต่เวลา 10.00 - 20.00 น. และปรับเวลาเคอร์ฟิวจาก 22.00 เป็น 23.00 น. ที่จะเริ่มวันพรุ่งนี้ (17 พ.ค.63) ด้วยการผ่อนปรนสถานที่ 10 กลุ่มกิจกรรมและกิจการในกรุงเทพมหานคร

โดยขอความร่วมมือห้างสรรพสินค้าทุกแห่งในกรุงเทพมหานคร 200 แห่ง เพิ่มการตรวจตราและควบคุมจำนวนประชาชนที่จะเข้าไปใช้บริการภายในห้างต้องอยู่ที่ 1 คน ต่อ 5 ตารางเมตร ร้านอาหารสามารถนั่งทานในร้านได้แต่ต้องเว้นระยะห่าง 1.5 เมตร หรือมีฉากกั้น แต่ห้ามนั่งดื่มแอลกอฮอล์ภายในร้านเด็ดขาด หากฝ่าฝืนจะปิดร้านทันที ต้องใส่หน้ากากอนามัยทุกครั้งที่เข้า-ออกห้างเพื่อความปลอดภัย ทั้งนี้ จะส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สุ่มตรวจเชิงลึกหรือสุ่มตรวจกลุ่มเสี่ยงแม้จำนวนผู้ป่วยจะลดน้อยลงแต่ยังวางใจไม่ได้ต้องเพิ่มความเข้มงวดและเฝ้าระวังกลุ่มเสี่ยงเพิ่มมากขึ้นกว่า 15,000 ราย คือ บุคลากรทางการแพทย์ที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ กลุ่มผู้ต้องขังรับและผู้ต้องกักแรกรับ คนขับหรือพนักงานประจำรถสาธารณะ พนักงานไปรษณีย์และพนักงานส่งของ รวมถึง ฟู้ดเดลิเวอรี่ กลุ่มอื่น ๆ ที่ได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร พระ นักบวช หรือเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในศาสนสถาน คนงานที่ทำงานในไซต์ก่อสร้างและคนงานที่พักในแคมป์ก่อสร้าง บุคลากรของกรุงเทพมหานครปฏิบัติงานที่มีความเสี่ยง ผู้ที่เกี่ยวข้องและมีความเสี่ยงในโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร บุคลากรที่ทำงานในหน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจใด ๆ ที่ต้องพบปะประชาชนเป็นจำนวนมาก หรือต้องพบปะกลุ่มเสี่ยงเป็นประจำ พนักงานร้านอาหาร ผู้ประกอบการและเจ้าหน้าที่ในตลาด