ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางปนิดา กรดแก้ว อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 808 หมู่ 5 ตำบลหินแก้ว อำเภอท่าแซะ จังหวัดชุมพร ว่า ตนเองมีลูกชายเพียงคนเดียว ชื่อ เด็กชายสิรวิชณ์ หรือน้องเวียร์ ศรีชาติ อายุ 11 ปี โดยตนเองได้สังเกตว่าลูกมีพฤติกรรมที่เบี่ยงเบนตั้งแต่ 3 ขวบ ซึ่งในช่วงนั้นตนเองมองว่าลูกยังเด็กอาจจะแยกเพศไม่ออกหรือสับสน จึงพยายามสอนลูกและให้ลูกไปเรียนว่ายน้ำเรียนเทควันโด และพยายามบอกลูกว่าลูกเป็นผู้ชาย แต่หลังๆมาในช่วงอายุประมาณ 7 ขวบ ลูกก็เริ่มแต่งตัวเป็นผู้หญิง เอาเสื้อแม่เครื่องสำอางค์ แม่มาแต่งมีความสนใจเรื่องแบบนี้ แต่ตนเองก็พยายามจะบอกว่าลูกเป็นผู้ชายเพราะเกิดเค้ามาเป็นผู้ชายก็อยากให้เค้าเป็นชาย

 

นางปนิดา กล่าวว่า แต่เมื่อตนเองเห็นพฤติกรรมลูกในช่วงหลังๆ ตนเองก็คิดว่าลูกน่าจะเกิดมาเลือกผิดเพศตนเองจึงบอกกับลูกว่าลูกเป็นอะไรก็ได้ แต่ขอให้ลูกเป็นเด็กดี ถ้าลูกชอบถ้าลูกรักอะไรแม่สนับสนุนได้ทุกอย่าง เมื่ออายุประมาณ 10 ปี น้องเวียร์ เริ่มมีพฤติกรรมที่ชัดเจนขึ้น เริ่มจะเต้น เริ่มแต่งตัว เริ่มแต่งหน้าทาปาก ตนเองก็มองลูกและเห็นว่าลูกมีความสุขในแบบที่เค้าเป็นในแบบที่เค้าชอบ แม่ก็บอกว่าลูกจะทำอะไรลูกก็ทำแต่แม่ขออย่างเดียวคือขอให้ลูกเป็นเด็กดี เพราะเดี๋ยวนี้สังคมเปิดกว้าง จะเป็นอะไรก็ได้ คนทุกเพศทุกวัยก็ยอมรับและเปิดใจมากยิ่งขึ้น ขออย่างเดียวคืออนาคตให้เค้าช่วยเหลือตัวเองได้ มีอาชีพ ไม่ต้องไปสร้างความเดือนร้อนให้คนอื่น และพ่อแม่พร้อมจะสนับสนุนทุกอย่าง เหมือนในครั้งนี้ที่นำน้องเวียร์ มาฝากเรียนแต่งหน้ากับมืออาชีพที่มีรางวัลการแต่งหน้ามาการัตตี ความเป็นมืออาชีพอย่าง คุณตู่ แชมป์แต่งหน้า บ้านเจ้าสาว โดยตนเองและพ่อของน้องเวียร์ จะเป็นผู้มารับส่งทุกวันและได้มีโอกาสดูการเรียน และชมฝีมือการแต่งหน้าของลูก รู้สึกมีความภูมิใจและดีใจที่ตั้งใจเรียนเพื่อสานฝันของตนเอง

 

นางปานิดา กล่าวอีกว่า ตนเองอยากให้พ่อแม่ที่ลูกมีลักษณะพฤติกรรมเบี่ยงเบนทางเพศแบบน้องเวียร์ ให้พ่อแม่เปิดใจยอมรับ เพราะคนทุกคนเลือกเกิดไม่ได้ เราเลี้ยงลูกได้แต่ร่างกายแต่ภายนอก แต่ภายในจิตวิญาณของเค้าเราไม่สามารถไปเปลี่ยนแปลงตัวเค้าได้ ให้ยอมรับในสิ่งที่เค้าเป็น ให้ลูกเราอยู่แล้วมีความสุข ถ้าลูกมีความสุขเราก็มีความสุขด้วย อย่าไปบังคับเค้าเลย แค่ให้เค้าเป็นคนดีของสังคม ช่วยเหลือคนอื่นมีน้ำใจ ตรงนั้นจะดีกว่า บางครั้งผู้ชายร้อยเปอร์เซ็นต์ผู้หญิงร้อยเปอร์เซ็นต์อาจจะสู่เด็กพวกนี้ไม่ได้

 

ด้าน เด็กชายสิรวิชณ์ หรือ น้องเวียร์ สาวน้อยในร่างเด็กผู้ชายคนนี้ เปิดใจว่า ตนเองเรียนอยู่โรงเรียนแห่งหนึ่งในเมืองชุมพร ในชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาตั้งแต่วัยเด็ก ตนเองมีความรู้สึกอยากจะเป็นผู้หญิงมาก และชอบแต่งตัว เขียนหน้า ทาเล็บ และได้พยายามเรียนรู้การแต่งหน้าจากยูทูป แล้วก็สั่งซื้อเครื่องสำอางต่างๆจากลาซาด้า โดยเงินทั้งหมดที่ใช้ซื้อนั้นเป็นเงินที่ตนเองพยายามเก็บออมส่วนที่เหลือจากโรงเรียน และเงินที่พ่อแม่ให้พิเศษ และที่ผ่านมาเวลาที่แต่งหน้าตนเอง ก็จะมีคนชมอยู่เสมอว่า แต่งหน้าสวย ตนเองจึงมีความมุ่งมั่นที่จะเรียนแต่งหน้าให้ได้ จนกระทั่งพ่อแม่ ซึ่งไม่ได้ว่าอะไรในพฤติกรรมตนเองที่เป็นแบบนี้ และยังให้การสนับสนุนให้ตนเองมาเรียนการแต่งหน้าอีกด้วย

 

ทางด้าน นายณัตธวุฒิ นิลยถานนท์ เจ้าของร้านคุณตู่ บ้านเจ้าสาว ซึ่งเป็นครูผู้ที่สอนน้องเวียร์แต่งหน้า กล่าวว่า ในวันแรกที่เจอน้องเวียร์คือ น้องมากับพ่อกับแม่ ครั้งแรกที่เจอตนเองก็คิดว่า จะไหวหรือเปล่าเพราะน้องอายุยังน้อย จะมีสมาธิหรือเปล่าเพราะอายุเพียง 11 ปีเท่านั้น แต่ส่วนหนึ่งตนเองแอบดีใจและภูมิใจชื่นชมพ่อแม่มาก เพราะพ่อแม่ส่งเสริมลูกไม่ปิดกั้นที่ลูกเป็นแบบนี้ ซึ่งผิดกับสมัยตนเองเมื่อ 40 ปีที่แล้วที่พ่อแม่จะไม่ชอบและไม่เห็นด้วยกับการที่ลูกเป็นแบบนี้ เมื่อตนเองเห็นความตั้งใจของพ่อแม่ และตัวน้อง ก็รับน้องเวียร์เข้ามาเรียนทันที โดยวันแรกที่มาเรียนตนเองได้ให้น้องลองแต่งหน้าตนเองให้ดู ทำให้ตนเองรู้เลยว่าน้องมากับพรสวรรค์จริงๆ ที่สำคัญคือน้องเค้าเริ่มต้นได้เร็วและน้องมีครอบครัวที่อบอุ่นและเข้าใจในความเป็นตัวตนของเค้า

 

นายณัตธวุฒิ กล่าวต่อว่า เด็กอายุเพียง 11 ปี ที่ใฝ่ฝันที่อยากจะเป็นช่างแต่งหน้า และพยายามเดินตามฝัน โดยที่มีครอบครัวที่อบอุ่นคอยช่วยเหลือและส่งเสริมให้น้องไปถึงฝัน ฝีมือการแต่งหน้าที่ไม่แพ้ช่างมืออาชีพ ที่นำเอาพรสวรรค์ในตัวเองออกมาแสดงให้คนอื่นได้เห็นตัวตนของตนเอง เส้นทางเมคอัพมืออาชีพคงไม่ไกลเกินฝันอย่างแน่นอนในอนาคตตนเองมองว่าหากน้องยังมีความมุ่งมั่นและตั้งใจในสิ่งที่ชอบอยู่แบบนี้ ตนเองมองว่าน้องเวียร์จะเป็นเมคอัพอาร์ติส รุ่นใหม่ที่ประสบความสำเร็จและมีชื่อเสียงอย่างแน่นอน ที่สำคัญจะเป็นเมคอัพที่อายุยังน้อยและไปได้ไกลอย่างแน่นอน