วันที่ 21 พ.ค.63 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาว อ.สอยดาว จ.จันทบุรี ได้ระดมกำลังออกตรวจสอบการครอบครองที่ดินของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาว ซึ่งมีเนื้อที่ทั้งสิ้น 465,602 ไร่ ครอบคลุมอำเภอต่าง ๆ ใน จ.จันทบุรี ตั้งแต่ อ.สอยดาว อ.โป่งน้ำร้อน อ.มะขาม อ.ท่าใหม่ อ.เขาคิชฌกูฎ และ อ.แก่งหางแมว โดยมีชาวบ้านที่มีดินทำกินภายในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาว รอการมาตรวจสอบการถือครองที่ดินดังกล่าวจากเจ้าหน้าที่อย่างต่อเนื่อง ขณะที่บางรายได้เตรียมเอกสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับการถือครองรอมอบให้เจ้าหน้าที่ เพื่อดำเนินการตรวจสอบต่อไป ทั่งนี้ผืนที่การถือครองเกือบทั้หมด ไม่มีสภาพความเป็นป่าหลงเหลือแล้ว แต่ได้กลายเป็นสวนยางพารา สวนลำไยไปแทน

 

นางภูสิน เกตานนท์ ผอ.สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.จันทบุรี เปิดเผยว่า การสำรวจพื้นที่นี้ เป็นการ คทช. หรือโครงการจัดสรรที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายของรัฐบาล จ.จันทบุรี เริ่มสำรวจมาตั้งแต่ปี 2559 เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน ผ่านขั้นตอนต่าง ๆ ตั้งแต่มอบให้ทำกินแล้วและกำลังอยู่ในการพิจารณาเพื่อมอบที่ทำกินให้ต่อไป รวมทั้งสิ้น 36,156 ไร่ แต่การตรวจสอบที่มากที่สุดคือการตรวจสอบที่กำลังทำอยู่ในขณะนี้ภายในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาว ซึ่งมีการเข้ามาทำกินมากถึง 91,000 ไร่ โดยกรมป่าไม้มีหลักเกณฑ์การถือครอง ต้องมีไม่เกินรายละ 20 ไร่ ต้องเป็นผู้ยากไร้ ส่วนกรมทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้เฉพาะเพียงพอกับการอยู่อาศัยเท่านั้น ที่สำคัญผู้ที่จะได้สิทธิการทำกิน ต้องเข้ามาทำกินในพื้นที่ของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาว ก่อนปี 2545 หากพบว่า รายใดเป็นผู้เข้ามาทำกินหลังจากปี 2545 ไปแล้ว ก็จะดำเนินการขั้นตอนต่าง ๆ เพื่อยึดคืนต่อไป

นางภูสิน เปิดเผยว่า การตรวจสอบการเข้ามาทำกินภายในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาว เนื่องจากเป็นการตรวจสอบที่มีเนื้อที่มาก จึงมีปัญหาบ้าง แต่ยังไม่มีอะไรน่าหนักใจ ครั้งนี้ถือเป็นการตรวจสอบที่สำคัญของ จ.จันทบุรี จึงได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ทำงานด้วยความรอบครอบและตรงไปตรงมา