กรณี 3 นายตำรวจเข้าจับกุม นายอนุชา บินมูซา หรือ บังหมัด อายุ 46 ปี พ่อค้ารับซื้อลูกหอยแครงจากชาวประมงพื้นบ้านที่ชุมชนบางสำโรง หมู่ 4 ต.ท่าทองใหม่ อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี อ้างว่าทำประมงผิดกฎหมายจนถูกชาวบ้านจำนวนมากล้อมรถยนต์ ต่อมาตำรวจภูธรภาค 8 ได้มีคำสั่งให้ ร.ต.อ.อดิศักดิ์ ชูประเสริฐ รอง สว.ฝ่ายอำนวยการ ภ.จว.พังงา ด.ต.พิเชษฐ์ ชูรัตน์ ผบ. หมู่ (สส) กก.สว.2 บก.สส.ภ.8 ด.ต.ธันยพงศ์  ตั้นวิริยะวงศ์ ผบ.หมู่ (สส) กก.สส.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี ไปประจำที่ ศปก.ภาค 8 จ.ภูเก็ต และนายอนุชา ได้แจ้งความที่ สภ.กาญจนดิษฐ์ ให้ดำเนินคดีกับตำรวจทั้ง 3 นายนั้น

 

 

ความคืบหน้าวันที่ 22 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ที่ห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการ สภ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี พล.ต.ต.ฐากูร เนตรพุกกณะ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อม พ.ต.อ.วิรุฬห์ สุวรรณวงศ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด พ.ต.อ.ทักษิณ ศิริโภคพัฒน์ ผกก.สภ.กาญจนดิษฐ์ ได้ประชุมคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน ซึ่ง นายอนุชา ได้แจ้งดำเนินคดีอาญาความผิดฐาน “ร่วมกันกรรโชกทรัพย์ พกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาต และเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ” เนื่องจากมีการใช้อาวุธปืนข่มขู่และอ้างว่ามีการเรียกเงิน 5 ล้านบาทแลกไม่ดำเนินคดี ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะดำเนินการทั้งเรื่องคดีอาญาและเรื่องวินัย 

พล.ต.ต.ฐากูร กล่าวว่า ขณะนี้ทางผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ได้สั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเรื่องนี้แล้ว และได้สั่งให้ตำรวจทั้ง 3 นาย ไปประจำที่ ศปก.ภาค 8 แล้ว นอกจากนี้มีคำสั่งไม่ให้เข้ามาในพื้นที่ อ.กาญจนดิษฐ์ ซึ่งเป็นไปตามข้อเรียกร้องที่ชาวบ้านกังวล ในส่วนการแจ้งความให้ดำเนินคดีนี้ทางตำรวจได้รับคำร้องทุกข์แล้ว ซึ่งคดีนี้ผู้ถูกกล่าวหาเป็นตำรวจของกองบังคับการตำรวจสืบสวนภาค 8 ตามระเบียบจะต้องส่งสำนวนไปยัง ปปช.

ในชั้นนี้กองบังคับการตำรวจภูธร จ.สุราษฎร์ธานี ได้ตั้งคณะทำงานสอบสวนมี พ.ต.อ.วิรุฬห์ สุวรรณวงศ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด เป็นหัวหน้าและมีคณะทำงานมีฝีมือลงมาช่วยสอบ ซึ่งได้ให้สอบสวนอย่างรอบครอบและตรงไปตรงมาจะส่งสำนวนไปให้ ปปช.โดยเร็วที่สุด ซึ่งผู้บังคับบัญชาสั่งดำเนินการตามระเบียบทุกขั้นตอนทุกประการขอประชาชนได้ไว้วางใจ คณะทำงานชุดนี้จะใช้ 3-4 วันก็เสร็จ เพราะว่าชาวบ้านอยู่ในพื้นที่อยู่แล้ว จะระดมทำงานไม่มีวันหยุดเสาร์อาทิตย์