เมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. วันที่ 22 พ.ค.63 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ร.ต.อ.สุรนันทน์ มีพันธุ์ ร้อยเวรสอบสวน สภ.อ่าวน้อย ได้รับแจ้งเกิดเหตุมีคนผูกคอเสียชีวิตภายในห้องนอน เหตุเกิดที่บ้านเลขที่ 1134 หมู่ 12 ต.อ่าวน้อย อ.เมือง จ.ประจวบฯ จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบแล้วเดินทางรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างประจวบฯ

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบเป็นบ้านปูนชั้นเดียว หลังคามุงกระเบื้อง มีญาติๆ และชาวบ้านใกล้เคียงยืนมุงดูด้วยความอาลัยโศกเศร้าเสียใจ จากการตรวจสอบภายในบ้านจุดเกิดเหตุเป็นห้องนอนส่วนตัวของผู้เสียชีวิต ทราบชื่อ นายสุรธัช สุขสมัย อายุ 28 ปี นอนเสียชีวิตอยู่บนที่นอนของตนเอง โดยมีมารดาและญาตินั่งร่ำไห้อยู่บริเวณข้างศพผู้เสียชีวิต ซึ่งจากการสอบถามญาติๆ เล่าว่าผู้เสียชีวิตได้ใช้ผ้าเช็ดตัวสีชมพูผูกคอตนเองกับโครงหลังคาบ้านพักจนหมดลมหายใจขณะกำลังเตรียมตัวที่จะอาบน้ำ ซึ่งขณะเกิดเหตุทุกคนภายในบ้านได้ไปอยู่บ้านญาติอีกหลังซึ่งอยู่ใกล้กัน โดยปล่อยให้ผู้เสียชีวิตอยู่ในบ้านเพียงลำพัง แต่พอกลับเข้ามาในบ้านก็พบว่าผู้ตายได้ผูกคอตัวเองเสียแล้ว ญาติๆ จึงได้ช่วยกันแก้ผ้าผูกคอนำร่างลงมาปฐมพยาบาลปั๊มหัวใจ เพื่อช่วยยื้อชีวิตแต่ไม่ประสบผลสำเร็จ และได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบดังกล่าว

 

 

นางแวว สุขสมัย อายุ 59 ปี มารดาผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ผู้ตายเป็นลูกชายคนเล็กเป็นคนที่ขยันมากหลังจากได้กลับตัวกลับใจเลิกยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด แล้วหันมาประกอบอาชีพช่วยแม่ทำงานหารายได้แบ่งเบาภาระทุกอย่าง แต่จะเป็นคนที่มีลักษณะป่วยเป็นโรคซึมเศร้า ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ไปซื้อแพะมาเลี้ยงก็ถูกสุนัขกัดตายไป 2 ตัว ทำให้ลูกชายของตนเสียใจมาก และได้บอกให้ตนไปซื้อรถจักรยานยนต์ผ่อนกับไฟแนนซ์ โดยตั้งใจว่าจะนำรถจักรยานยนต์ขี่ไปทำงานเป็นยามที่อำเภอหัวหิน โดยลูกชายของตนตั้งความหวังไว้สูงบอกกับตนว่าถ้าวันนี้ไม่ได้รถกลับมาบ้านด้วย ก็ต้องได้ทำศพเขาแทนแน่วันนี้ ตนก็ไม่คิดว่าลูกชายจะกล้าทำจริงๆ โดยเมื่อคืนยังช่วยตนปีนต้นไม้ตัดยอดตีนเป็ดหน้าบ้านอยู่เลย ส่วนวันนี้ได้พาไปหาหมอที่โรงพยาบาลหลังจากกลับมาถึงบ้านลูกชายถามว่ารถจักรยานยนต์ได้เมื่อไร ตนจึงตอบกลับไปว่าได้วันพรุ่งนี้และคิดว่าไม่มีอะไร ในจังหวะที่ตนไปอยู่บ้านแม่ซึ่งอยู่ติดกันโดยปล่อยให้ลูกชายอยู่บ้านเพียงลำพังคนเดียวพอกลับเข้ามาถึงบ้านก็พบว่าลูกชายได้คิดสั้นผูกคอตัวเอง ภายในห้องนอนเสียชีวิตเสียแล้ว ตนก็ไม่เคยคิดว่าลูกชายจะกล้าทำในสิ่งที่ได้พูดไว้จริงๆ