"บิ๊กตู่" ยืนยันขยาย พ.ร.ก.ฉุกเฉิน 1 เดือน เพื่อความมั่นคงด้านสาธารณสุข
22 พ.ค. 2563, 20:12
วันนี้ ( 22 พ.ค.63 ) ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ขอบคุณน้ำใจจากคนไทยที่บริจาคสิ่งของช่วยเหลือกัน พร้อมขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ร่วมมือกันอย่างดีปฏิบัติตามมาตรการเพื่อป้องกัน และควบคุมโรค รวมทั้งการใช้มาตรการทางสังคมในการร่วมกันสอดส่องดูแล การปฏิบัติตามข้อกำหนดต่าง ๆ จนทำให้ประเทศไทยก้าวขึ้นมายืนในอันดับต้นๆ ของประเทศที่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้เป็นอย่างดี
ด้านกระทรวงสาธารณสุข รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ภาพรวมตัวเลขการติดเชื้อในประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก กลุ่มประเทศในเอเชียยังพบผู้ติดเชื้ออย่างต่อเนื่อง โดยประเทศที่น่าจับตาดูสถานการณ์ ได้แก่ อินเดีย อินโดนีเซีย ปากีสถาน และประเทศในอาเซียน ประเทศอื่น ๆ ที่ยังมีตัวเลขน่าเป็นห่วงได้แก่ สหรัฐฯ รัสเซีย บราซิล ชิลี ซึ่งตัวเลขยังสูงต่อเนื่อง หลายประเทศพบการระบาดใหม่ภายหลังอนุญาตให้มีมาตรการผ่อนปรน เช่น เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ส่วนในไทยยังควบคุมได้ดี ตัวเลขเป็นเลขตัวเดียว และวันนี้ ไม่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ได้รายงานที่ประชุมเกี่ยวกับความจำเป็นในการพิจารณาขยาย พ.ร.ก. ฉุกเฉิน ออกไปอีก 1 เดือน ด้วยปัจจัยหลัก 3 ประการ ดังนี้
1. เพื่อเตรียมการรองรับมาตรการผ่อนปรนในระยะต่อไป การดำเนินการต้องมีเอกภาพ รวดเร็ว มีความต่อเนื่อง มีประสิทธิภาพ และมีมาตรฐานกลาง ในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่
2. ยังคงมีความจำเป็นและต้องมีการบังคับใช้ตาม พ.ร.ก. ฉุกเฉิน โดยประเทศไทยอยู่ระหว่างการกำหนดมาตรการผ่อนคลายระยะที่ 3 และ 4 ซึ่งเป็นกิจกรรม/กิจการที่มีความเสี่ยงสูง จำเป็นต้องมีมาตรการตามกฎหมาย เพื่อกำกับการบริหารจัดการเพื่อบริหารจัดการมาตรการผ่อนคลายอย่างเป็นระบบในเวลาที่เหมาะสม
3. สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคยังไม่สิ้นสุด โดยที่มีข้อมูลว่าหลายประเทศยังคงมีการระบาดและมีผู้ติดเชื้อในระดับสูง และเมื่อประเทศไทยได้จัดทำมาตรการผ่อนคลายครบทั้ง 4 ระยะแล้ว จำเป็นต้องมีระยะเวลาเพื่อเตรียมความพร้อมในการเปิดประเทศ อาทิ มาตรการด้านกฎหมาย แผนปฏิบัติการในการบริหารวิกฤตการเพื่อรองรับกับความเสี่ยงที่อาจกลับมาแพร่ระบาดของโรค
นอกจากนี้นายกฯ ได้สั่งการให้ยึดถือความมั่นคงด้านสาธารณสุขเป็นเรื่องสำคัญ ยังคงต้องดำเนินมาตรการอย่างเข้มงวด ทั้งนี้ การพิจารณาขยาย พ.ร.ก. ฉุกเฉินให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามขั้นตอน และชี้แจงให้ประชาชนและสังคมเข้าใจเหตุผลอย่างถูกต้อง