กระทรวงเกษตรฯ ลงพื้นที่ตรวจ 2 โครงการแก้ไขปัญหาภัยแล้งพิจิตร
23 พ.ค. 2563, 20:04
วันนี้ (23 พ.ค. 63) นายนราพัฒน์ แก้วทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และคณะ เดินทางลงพื้นที่ตรวจโครงการแก้ไขปัญหาภัยแล้งและอุทกภัยจังหวัดพิจิตร ที่โครงการฝายไฮดรอลิกแบบฐานพับได้ อ.สามง่าม และโครงการประตูระบายน้ำวังจิก อ.โพธิ์ประทับช้าง โดยมี นายพยนต์ อัศวพิชยนต์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร หัวหน้าส่วนราชการสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น ให้การต้อนรับและรายงานความก้าวหน้าของโครงการ
นายนราพัฒน์ แก้วทอง กล่าวว่า ทั้ง 2 โครงการนี้ เป็นส่วนหนึ่งของโครงการฝายกักเก็บน้ำแบบขั้นบันไดตลอดลำน้ำยม ตั้งแต่สุโขทัย พิจิตร ถึงนครสวรรค์ รวมเกือบ 20 ฝาย เพื่อให้สามารถชะลอน้ำไว้ใช้ได้มากที่สุด เพราะลำน้ำยมไม่มีเขื่อนใหญ่กักเก็บน้ำ โดยในส่วนของฝายสามง่าม ซึ่งเดิมเป็นฝายยางชำรุดมานาน ขณะนี้การดำเนินการเป็นไปตามแผนจะแล้วเสร็จภายใน 3 เดือน ซึ่งจะกักเก็บน้ำได้ทันฤดูฝนนี้ โครงการนี้เมื่อแล้วเสร็จจะทำให้มีปริมาณน้ำกักเก็บเพิ่มขึ้นจาก 11 ล้านลูกบาศก์เมตร เป็น 16 ล้านลูกบาศก์เมตร พื้นที่ทำการเกษตรได้ประโยชน์เพิ่มอีกประมาณ 5,000 ไร่ ส่วนโครงการประตูระบายน้ำวังจิก ซึ่งเกิดความล่าช้าจากการเวนคืนที่ดิน และสภาพดินในโครงการเป็นดินเหนียวต้องเพิ่มอุปกรณ์ในการก่อสร้าง ขณะนี้ปัญหาทุกอย่าคลี่คลายแล้ว จะติดตามเร่งรัดโครงการให้แล้วเสร็จตามแผนภายในปี 2565
ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ยอมรับว่า สถานการณ์ภัยแล้งในภาพรวมปีนี้มีแนวโน้มรุนแรง น้ำต้นทุนมีน้อย โดยเฉพาะในเขื่อนหลัก ทั้งเขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ และเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน มีปริมาณน้ำพร้อมใช้งานเพียง 9-10% ซึ่งทางชลประทานต้องบริหารจัดการน้ำอย่างเต็มที่ พร้อมขอความร่วมมือเกษตรกรชะลอ หรือลดพื้นที่เพาะปลูกข้าว เพื่อป้องกันความเสียหาย หากฝนมาเต็มที่ช่วงเดือนกรกฎาคมตามที่คาดการณ์ก็จะบรรเทาปัญหาได้ส่วนหนึ่ง ส่วนการทำฝนหลวงยืนยันว่ามีการบินขึ้นปฏิบัติการทุกวัน แต่มีข้อจำกัดเรื่องสภาพอากาศและปริมาณความชื้นที่เหมาะสม จึงไม่สามารถกำหนดได้ว่าจะให้ฝนตกในพื้นที่ใด
ที่มา phichit