นายจงคล้าย วรพงศธร รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กล่าวขณะเดินทางลงพื้นที่ จ.ตรัง และติดตามเรื่องการดำเนินการเอาผิด คณะถ่ายทำรายการ The Law of Jungle ซึ่งเป็นของสาธารณรัฐเกาหลี ที่ได้มาเข้าถ่ายทำในประเทศไทย โดยบริษัท เดอะซิกซ์ เอลลิเม้นท์ จำกัด ผู้ประสานงานการถ่ายทำของ SBS Broadcasting Center สาธารณรัฐเกาหลี โดยได้ขออนุญาตกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เข้ามาถ่ายทำรายการโทรทัศน์ในอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม บริเวณหาดเจ้าไหม เกาะแหวน และเกาะมุกด์ ในวันที่ 29 มีนาคม และวันที่ 1-3 เมษายน 2562 ที่ผ่านมา แล้วลักลอบจับหอยมือเสือ ซึ่งเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง มาปรุงเป็นเมนูอาหารรับประทาน เหตุเกิดในพื้นที่ อ่าวโล๊ะอุดัง หมู่ 2 เกาะมุกด์ ต.เกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง พร้อมทั้งยังมีการเผยแพร่ข่าวและภาพผ่านเฟซบุ๊ก นาม Bussaba Wanlapltith เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2562 ด้วยนั้น

ล่าสุดทางกรมได้ให้ทางอุทยานฯ แจ้งความเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และทางตำรวจอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวน พร้อมยืนยันสามารถเอาผิดได้แน่นอน เพราะมีหลักฐานพร้อม ทั้งคลิปวีดีโอ และบริษัทที่เข้ามาถ่ายทำ ตอนนี้อยู่ระหว่างการประสานและร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งทำงาน คิดว่าคงจะเรียบร้อย ส่วนที่หลายคนมองว่าการทำผิดนั้นเกิดขึ้นนานแล้ว และผู้กระทำผิดกลับประเทศไปแล้ว จะให้ตามไปจับตัวคงต้องใช้เงินจำนวนมากไม่คุ้มค่านั้น รองอธิบดีกรมอุทยานฯ กล่าวว่า ทางตำรวจมีขั้นตอนการประสานผ่านทางสถานฑูต เพื่อดำเนินการเอาผิดตามกฎหมายให้ได้

โดยที่ผ่านมาทางเจ้าหน้าที่ได้ดูแลพื้นที่ให้เป็นไปตามระเบียบอยู่แล้ว ซึ่งในการขออนุญาตถ่ายทำจะมีระเบียบปฏิบัติอยู่แล้วว่า จะต้องมีเจ้าหน้าที่คอยตามไปสังเกตการณ์ควบคุม เช่นเดียวกันในวันถ่ายทำรายการดังกล่าว หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม ก็ได้ส่งเจ้าหน้าที่ติดตามไปร่วมสังเกตการณ์ทุกจุดด้วย แต่เหตุการณ์เกิดขึ้นเพราะบริษัทผู้ขออนุญาตออกนอกโปรแกรมในเวลาหลังเลิกการถ่ายทำแล้ว โดยที่ไม่มีการแจ้งทางเจ้าหน้าที่ ส่วนเรือผู้รับจ้างดังกล่าวขณะนี้ทราบชื่อแล้ว ทางตำรวจกำลังเชิญมาให้ปากคำ ซึ่งจะต้องพิสูจน์ให้ได้ว่ามีส่วนรู้เห็นกับการกระทำดังกล่าวหรือไม่

 

สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้น รองอธิบดีกรมอุทยานฯ กล่าวว่า จะต้องพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส ในการประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวได้รับรู้ว่า การกระทำ หยิบ จับ สัตว์สงวนต่างๆ เป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย และต่อไปหากมีการขออนุญาตเข้าไปถ่ายทำต้องตามเฝ้ากันตลอดเวลา ไม่ใช่เลิกงาน (เลิกกอง) แล้วเขาจะไปไหนก็ได้ และต้องให้ความรู้กับเรือในท้องถิ่นมากขึ้นด้วย เพื่อมิให้มีถ่ายทำที่ผิดกฎหมาย แต่ปกติทางเรือท้องถิ่นเองก็รับทราบระเบียบและแนวทางการปฏิบัติดีว่า หากนำเรือเข้าไปในเขตอุทยานฯ จะต้องปฏิบัติอย่างไร
        
ด้าน พ.ต.อ.ภูมิ บาลทิพย์ ผู้กำกับการ สภ.กันตัง กล่าวว่า ตอนนี้ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานจากอุทยานฯ แล้วค่อนข้างจะครบถ้วน เหลือเพียงเอกสารบางอย่าง  และอยู่ระหว่างการรอให้ถ้อยคำของบริษัทผู้ประสานงานกับทางทีมงานที่มาถ่ายทำในพื้นที่ ที่สำคัญในส่วนของคดีนี้ พล.ต.ต.นุกูล ไกรทอง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง ได้แต่งตั้งคณะทำงานด้านคดีขึ้นมาโดยตรง 1 ชุด พร้อมมีการเรียกประชุมเจ้าหน้าที่ เพื่อให้แนวทางและนโยบายในการปฏิบัติงานติดตามผู้กระทำผิดในคดีดังกล่าว แต่ตอนนี้ยังขอไม่เปิดเผยว่ามีใครกระทำผิดบ้าง และตำรวจก็จะเร่งทำงานอย่างเต็มที่ คาดว่าจะใช้เวลาไม่นาน