"ชาวบ้านเทพรักษา" ร้องเรียน 4 แยกลันแต้ เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง สร้างวงเวียนแล้วยังแก้ปัญหาไม่ได้
8 ก.ค. 2562, 16:39
วันนี้ (8 ก.ค. 62) ผู้สื่อข่าว ONB news ได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านในพื้นที่ ต.เทพรักษา อ.สังขะ จ.สุรินทร์ว่า ที่บริเวณ 4 แยกลันแต้ บ.ลันแต้ ต.เทพรักษา อ.สังขะ ซึ่งเป็นเส้นทางหลักที่ประชาชนใช้สัญจรไปมาจำนวนมาก เป็นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2328 ตัดกับทางหลวงชนบท หมายเลข สร.4013 และเป็นเส้นทางหลักเชื่อมเส้นทางชายแดนไทย-กัมพูชา ระหว่าง ชายแดน ช่องสะงำ อ.ภูสิงห์ จ.ศรีษะเกษ กับ ชายแดนช่องจอม ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ หลังจากในรอบ 10 ปี จนถึงปัจจุบัน พบว่าเกิดอุบัติเหตุหมู่รถยนต์ชนกันกลาง 4 แยก ทำให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมากหลายครั้ง เนื่องจากเส้นทางก่อนถึง 4 แยก มีลักษณะเป็นเนินโค้งทั้ง 2 ด้าน และบริเวณ 4 แยกเป็นแอ่งพื้นที่ต่ำ เมื่อผู้ขับขี่ขับรถลงมาจากเนิน ทำให้มองเห็นไม่ชัดเจนว่าบริเวณดังกล่าวเป็น 4 แยก จึงทำให้รถที่วิ่งมาคนละเส้นทางพอถึง 4 แยกไม่ทันระวังเกิดการชนกันกลาง 4 แยกอย่างจัง จึงทำให้เกิดอุบัติเหตุหมู่อยู่บ่อยครั้งดังกล่าว ส่งผลให้ ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนจังหวัดสุรินทร์ (ศปถ.สุรินทร์) ร่วมกับแขวงทางหลวงสุรินทร์ เร่งแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น ด้วยการสร้างวงเวียนขนาดใหญ่ เป็นเกาะวงกลมตั้งอยู่กลาง 4 แยกไฟแดงดังกล่าว
แต่ถึงแม้จะมีวงเวียนขนาดใหญ่ที่พึ่งสร้างเสร็จใหม่ๆ หวังแก้ปัญหาอุบัติเหตุแล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถแก้ปัญหาอุบัติเหตุได้ 100 % เนื่องจากประชาชนยังไม่คุ้นเคยว่ามีเกาะกลางถนนอยู่ อีกทั้งป้ายสัญญาณสัญลักษณ์จราจรต่างๆ มีน้อยและโดยเฉพาะป้ายลูกศรเดินรถทางเดียว ที่มีขนาดเล็กไม่เด่นชัด จึงทำให้รถที่วิ่งผ่านไปมา โดยเฉพาะในช่วงกลางคืนมองไม่เห็นว่ามีวงเวียนอยู่ จึงทำให้วิ่งเข้าชนอย่างจัง และได้รับความเสียหายมาแล้วหลายคัน ตามที่ภาพวงจรปิดบันทึกภาพไว้ได้หลายเหตุการณ์
ผู้สื่อข่าวได้ตั้งข้อสังเกต พบว่าสัญลักษณ์ลูกศรจราจรบนพื้นถนน 3 จุดเรียงรายกัน ก่อนถึงวงเวียนด้านเส้นทางมาจากด้าน อ.บัวเชด กลับพบว่าลูกศรชี้ไปทางขวา สัญลักษณ์ดังกล่าว มีโอกาสทำให้ประชาชนที่สัญจรไปมาสับสน ว่าลูกศรดังกล่าว อนุญาตให้สามารถขับรถเลี้ยวขวาได้ หรือยูเทิร์น ขวาได้เลยไม่ต้องอ้อมวงเวียน ซึ่งมีโอกาสทำให้เกิดอุบัติเหตุได้เช่นกัน ชาวบ้านจึงอยากให้ทางแขวงทางหลวงสุรินทร์ แก้ไขลูกศรให้ชี้ไปทางด้านซ้ายด้านเดียวกันทั้งหมด เพื่อวนขวาของวงเวียนไปทางเดียวกัน เมื่อต้องการเลี้ยวไปทางขวาหรือยูเทิร์น กลับจะได้เป็นไปในทิศทางเดียวกันทางเดียวกัน
นอกจากนี้แล้ว ยังพบว่า ที่บริเวณจุดยูเทิร์นกลับรถ ซึ่งอยู่ห่างออกไปจาก 4 แยกลันแต้ ดังกล่าวไปทางเส้นทางช่องจอม ไกลออกไปอีกประมาณ 500 เมตร พบว่ามีน้ำเจิ่งนองกินพื้นทผิวถนนซึ่งเป็นถนน 4 เลน ที่พึ่งสร้างเสร็จใหม่ๆ ไป 1 เลน ระยะทางเกือบ 200 เมตร สาเหตุจากการสร้างถนน 4 เลนมีระดับไม่เท่ากัน ทำให้น้ำฝนที่ตกลงมาขังเจิ่งนองกินเลนถนนไม่มีทางระบายออกดังกล่าว ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายกับรถที่สัญจรไปมาจำนวนมาก ชาวบ้านในพื้นที่และ อบต.เทพรักษา จึงได้เรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงไปแก้ปัญหาในครั้งนี้ รวมทั้งจัดทำป้ายสัญญาณจราจรบนวงเวียนให้มีขนาดที่ใหญ่ขึ้นด้วย
นายเต็ม สามสี นายก อบต.เทพรักษา กล่าวว่า สี่แยกลันแต้แห่งนี้ ทางหลวงสุรินทร์ ได้แก้ปัญหาอุบัติเหตุที่ผ่านมาด้วยการสร้างวงเวียนไว้กลาง 4 แยก แต่ก็ยังแก้ปัญหาอุบัติเหตุได้ไม่มากนัก เนื่องจากว่าการสร้างวงเวียนดังกล่าว อยู่ในพื้นที่ต่ำ เป็นแอ่ง เพราะฉะนั้นเส้นทางที่จะมาจากทางช่องจอมและช่องสะงำนั้น จะมองเห็นทัศนียภาพตรงนี้ได้ในระยะสั้น ไม่ชัดเจน ซึ่งหลังจากสร้างวงเวียน ก็พบว่าเกิดอุบัติเหตุรถชนวงเวียนขึ้นไปเกยอยู่บนวงเวียนนี้มาแล้ว 3 ราย ซึ่งยังไม่มีใครไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่รถก็พังเสียหาย อยากวิงวอนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงมาสำรวจและดำเนินการแก้ไขเพิ่มเติม ในส่วนที่เกิดปัญหา รวมทั้งป้ายการจราจรต่างๆ โดยเฉพาะป้ายลูกศร บนวงเวียนนั้น มีขนาดเล็กเกินไป อยากให้มีป้ายที่ใหญ่ขึ้น รวมทั้งอยากให้มีลูกระนาดก่อนถึงวงเวียนด้วย น่าจะเป็นการเตือนผู้ขับขี่ได้ในระดับหนึ่งก่อนถึงวงเวียน ซึ่งวงเวียนและถนน 4 เลน บริเวณนี้พึ่งสร้างเสร็จใหม่ๆ และมีการตรวจรับไปเมื่อสัปดาห์ก่อน ทั้งนี้วงเวียนดังกล่าว สามารถแก้ปัญหาอุบัติเหตุที่ผ่านมาได้ส่วนหนึ่ง แต่ยังมีส่วนหนึ่งที่ต้องขอความอนุเคราะห์หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาช่วยแก้ปัญหาเพิ่มเติม และฝากถึงประชาชนผู้สัญจร ผ่านเส้นทางนี้ ให้มีวินัยในการใช้รถใช้ถนน ต้องสังเกต ป้ายจราจรต่างๆ ที่มีการบังคับไว้ ต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ต้องมีจิตสำนึกในการใช้รถใช้ถนน หากถนนสร้างดีแค่ไหน ถ้าเราไม่มีจิตสำนึก ก็ไม่อาจแก้ปัญหาอุบัติเหตุได้ นายก อบต.เทพรักษา กล่าว
ด้านนางมะลิวัลย์ ยาดี อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 21 ม.5 บ.กระสัง ต.พระแก้ว อ.สังขะ จ.สุรินทร์ ผู้ที่ขับรถประสบอุบัติเหตุชนจนรถขึ้นปีนอยู่บนวงเวียนดังกล่าว เปิดเผยว่า วันที่เกิดเหตุเวลาประมาณ 2 ทุ่มกว่าๆ ตนขับรถมาจากด้าน อ.บัวเชด พอมาถึงสี่แยกก็มองซ้ายมองขวาแล้ว เห็นว่าไม่มีรถวิ่งผ่านมา เลยขับตรงมาเลย ไม่ทันสังเกตว่ามีวงเวียน จึงชนและปีนขึ้นเกาะอย่างจัง ตนก็ตกใจว่าเกิดอะไรขึ้น พอลงมาจากรถ ถึงรู้ว่ามันมีวงเวียนอยู่ โชคดีที่ตนเองไม่ได้รับบาดเจ็บ กลางคืนมองไม่ชัดเจนว่ามีวงเวียน อยากให้ทำสัญลักษณ์ใหญ่ๆ เห็นเด่นชัด คนจากต่างจังหวัดมาจะได้เห็นชัด จะได้ไม่เกิดอุบัติเหตุอีก รถของตนก็เสียหายและต้องไปซ่อมอีก