ผู้การฯ เรียกประชุม เร่งคลี่คลายคดี "ฆ่าเผาพระทั้งเป็น" ชี้ 3 ประเด็นสำคัญ-ยังไม่ตัดทิ้ง
8 ก.ค. 2562, 19:03
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 8 ก.ค. 62 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ที่ห้องประชุม สภ.โซ่พิสัย อ.โซ่พิสัย จ.บึงกาฬ พล.ต.ต.ทิวา บุญดำเนิน ผบก.ภ.จว.บึงกาฬ ได้ประชุมชุดคลี่คลายคดีฆ่าเผาพระนักบุญทั้งเป็นที่สำนักปฏิบัติธรรมพระประเสริฐเกิดทรัพย์ บ้านโพนทอง ต.หนองพันทา อ.โซพิสัยโดยมี พ.ต.อ. วิริทธิ์พล มีสายมงคล รอง ผบก.ภ.จว.บึงกาฬ พ.ต.อ.ชาญณรงค์ มากพิสุทธิ์ ผกก.ปพ.บก.สส.ภาค 4 พ.ต.อ.สุกฤษณ์ ข้อร่วมคิด ผกก.สส.ภ.จว.บึงกาฬ พ.ต.อ.ชัยยุทธ ธรรมสุนา ผกก.สภ.โซ่พิสัย พ.ต.ท.ชาติชาย วัฒนาสุข รอง ผกก.สส.และร.ต.อ.โกญจนาถ ชาวยามกา รอง สว.กก.3 กองปราบปราม เข้าร่วมประชุมอย่างเคร่งเครียดในวันนี้ เวลาผ่านไปประมาณ 1 ชั่วโมงจึงเลิกปะชุม
พล.ต.ต.ทิวา ผบก.ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวภายหลังการประชุมในประเด็นสาเหตุของการฆาตกรรมในครั้งนี้ว่า ยังให้ความสำคัญทุกประเด็นทั้งเรื่องการขัดผลประโยชน์ภายในวัด ประเด็นชู้สาว และประเด็นให้กู้ยืมเงิน โดยได้ตั้งชุดสืบสวนรับผิดชอบออกไปคนละประเด็น หากมีใครมีส่วนเกี่ยวข้องก็จะเชิญตัวมาสอบสวนให้กระจ่าง โดยทั้ง 3 ประเด็น ยังไม่ตัดทิ้งประเด็นใดประเด็นหนึ่ง แต่น้ำหนักการสอบสวนยังให้ความสำคัญที่ประเด็นแรกคือ ขัดผลประโยชน์กันภายในวัด เนื่องจากเรียกผู้ต้องสงสัยมาสอบปากคำแล้วก็ยังให้การปฏิเสธอยู่ แต่จากการสืบสวนสอบสวนทราบว่าก่อนหน้าเกิดเหตุ พระสมจิตร ถูกคนร้ายบุกลาดน้ำมันเผาจนมรณภาพคากุฎีนั้น ได้เกิดการโต้เถียงขัดแย้งระหว่างลูกศิษย์ที่เคยร่วมงานกันอย่างใกล้ชิด เรื่องผลประโยชน์ที่ทำสมุนไพรแจกจ่ายหรือรักษาญาติโยม กับเรื่องที่ดินของวัด 3 ไร่ซึ่งยังเป็นชื่อของลูกศิษย์คนหนึ่งที่ถือครองแทน แต่ตอนนี้ลูกศิษย์คนนั้นได้ทำตัวออกห่างไป ส่วนการโต้เถียงกันก็มีคนได้ยินว่ารุนแรงมากถึงขนาดใช้คำเป็นภาษาชาวบ้านว่า”กู-มูง” ทำให้ลูกศิษย์คนดังกล่าวได้ถอดอุปกรณ์ทำยาสมุนไพรซึ่งเป็นส่วนของตนหนีกลับบ้านไป จึงเป็นเหตุหนึ่งที่สร้างความบาดหมางกันขึ้นระหว่างลูกศิษย์กับพระผู้ตาย ส่วนผลการตรวจดีเอ็นเอเปรียบเทียบเนื้อเยื่อในช่องปากของผู้ต้องสงสัยซึ่งประกอบไปด้วยพระประเวท หนูน้อยหรือโสพะโณ อายุ 52 ปีเป็นพระลูกศิษย์ที่บวชใหม่ 2.นายเรืองศักดิ์ เชิดสะภู อายุ 49 ปี อยู่หมู่ 10 ต.หนองพันทาและ 3.นายตุ้ย สมบูรณ์ อายุ 53 ปี หมู่ 3 ต.หนองพันทา อ.โซ่พิสัย ที่เคยเป็นลูกศิษย์ใกล้ชัด วันนี้ผลในการตรวจดีเอ็นเอยังไม่ทราบแต่จะรู้ผลได้ภายใน 1 เดือน ส่วนการติดตามจับกุมคนร้ายทางตำรวจก็เร่งทำอย่างรัดกุม เพราะเป็นเรื่องคดีอุกฉกรรจ์ และเป็นข่าวที่พี่น้องประชาชนให้ความสนใจ คาดว่าคงจะรู้ตัวคนร้ายได้ไม่นาน
ส่วนบรรยากาศภายในสำนักปฏิบัติธรรม ซึ่งกำลังเตรียมรับศพพระสมจิต เกิดทรัพย์ หรือหลวงพ่อแต อายุ 53 ปี ซึ่งจะนำกลับมาจากแผนกนิติเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ถึงวัดประมาณ 17.00 น.เย็นนี้ โดยมีญาติโยมและพี่ญาติพี่น้องมาจากทั้งไทยบ้านท่ามะเฟือง ต.โพนสา อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย และฝั่ง สปป.ลาว มาร่วมแสดงความอาลัยท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจ โดยการนำของ นางแสง เกิดทรัพย์ ชาวนครเวียงจันทน์ สปป.ลาว มาประมาณ 8 คน โดยบอกว่าได้เห็นข่าวจากโทรทัศน์ โดยพระผู้ตายเป็นญาติผู้น้อง(แม่พระเป็นน้องของแม่นางแสง) หลังจากแม่ตายที่ลาว พ่อได้พาข้ามน้ำโขงมาแต่งงานใหม่กับแม่คนไทย
ส่วนญาติอีกคนคือ พระสมศักดิ์ เกิดทรัพย์หรือพระแปม อายุ 49 ปีซึ่งเป็นพระน้องชายต่างมารดากันกับพระสมจิตรผู้ตาย ได้ กล่าวว่ายังอยู่ในความเสียใจแม้จะบวชเป็นพระมาได้ 7 พรรษา แต่ก็ยังทำใจไม่ได้เกี่ยวกับการจากไปอย่างไม่มีวันกลับของพระพี่ชาย จึงไม่อยากจะให้สัมภาษณ์เป็นข่าว ก่อนหน้าที่ก็เคยมาช่วยงานหลวงลุง ในก่อร่างสร้างวัด เมื่อ 5 ปีก่อนจึงได้แยกตัวออกไปบำเพ็ญเพียรส่วนตัว ก็ได้แต่ยึดถือเอาวัตรปฏิบัติความดีความงามปฏิปทาของหลวงลุงไปยึดถือปฏิบัติ ที่ผ่านมาก็ไม่เคยได้ยินเรื่องราวไม่ดีไม่งานหรือเบาะอะไรจากท่าน ไม่เคยพูดอะไรให้รับรู้เลย ส่วนศพของหลวงลุงเมื่อเดินทางมาถึงก็จะจัดพิธีทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ 3 วัน และจะทำการฌาปนกิจภายใน 3 วันคือวันพุธที่จะถึงนี้.
Recommend News
MOST POPULAR
