"ผู้ว่าฯจันทบุรี" แถลงข่าว การปฏิบัติการบูรณาการหน่วยงานติดตามจับเรือบรรทุกน้ำมันลักลอบหนีภาษี จำนวน 50,000 ลิตร
29 พ.ค. 2563, 06:46
วันที่ 28 พฤษภาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุม 2 ศาลากลางจังหวัดจันทบุรี นายวิทูรัช ศรีนาม ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี พร้อมด้วย พลเรือตรี ชาติชาย ทองสะอาด ผู้อำนวยการสำนักงานฝ่ายอำนวยการ ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ภาค 1 พลเรือตรี พินิจ ชื่นรุ่ง รอง ผู้บัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด ผู้แทน มทบ.19 กอ.รมน.จังหวัดจันทบุรี ตำรวจน้ำ/ประมงจังหวัด เจ้าท่าภูมิภาค สรรพสามิต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมแถลงข่าว การจับกุมเรือลักลอบบรรทุกน้ำมันหนีภาษี โดย ศรชล. ภาค 1 ร่วมกับ กปช.จต.บูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการหาข่าว และเข้าตรวจสอบจนพบเรือต้องสงสัยเมื่อคืนที่ผ่านมา เมื่อเวลา 23.30 น.โดยหมวดเรือลาดตระเวนชายแดนได้นำเจ้าหน้าที่ดำเนินการยุทธวิธีติดตามเรือที่ดัดแปลงเป็นเรือลักลอบบรรทุกน้ำมันหนีภาษีพบเรือต้องสงสัย JMP 85 บริเวณห่างจากฝั่ง บ้านปากน้ำแขมหนูประมาณ 4 ไมล์ทะเล ภายในเรือพบคนประจำเรือ 4 นาย ไม่มีการต่อสู้ ขัดขวาง ตรวจพบน้ำมันเชื้อเพลิงชนิดดีเซล จำนวน 50,000 ลิตร จึงควบคุมเรือและน้ำมันลักลอบหนีภาษีไว้ตรวจสอบ หลังแถลงข่าวเสร็จ ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี พร้อมด้วยผู้ร่วมแถลงข่าว ได้ลงเรือไปตรวจเยี่ยมชมผลการปฏิบัติงานในพื้นที่ทะเลห่างจากฝั่งประมาณ 4 ไมล์ทะเล ซึ่งชุดหมวดเรือลาดตระเวนชายแดนและตำรวจน้ำควบคุมผู้กระทำผิดไว้ ก่อนที่จะประสานส่งต่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อสืบสวน สอบสวน ขยายผล ดำเนินคดีตามกฎหมาย ต่อไป
พลเรือตรีชาติชาย ทองสะอาด ผู้อำนวยการสำนักงานฝ่ายอำนวยการ ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ภาค 1 เปิดเผยว่าการลักลอบค้าน้ำมันเถื่อนเป็นการทำลายผลประโยชน์ของชาติทางทะเลทำให้ประเทศชาติสูญเสียผลประโยชน์ด้านภาษีอันเป็นรายได้ในการพัฒนาประเทศ และการกระทำของผู้กระทำผิดอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ ที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะได้ดำเนินการสืบสวน สอบสวน ขยายผลต่อไป
ด้านนายวิทูรัช ศรีนาม ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี กล่าวว่า การบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการติดตามจับกุมผู้กระทำผิดครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกของจังหวัดจันทบุรีที่สามารถจับน้ำมันลักลอบหนีภาษีได้มากถึง 50,000 ลิตร ที่ผ่านมาจังหวัดจันทบุรีได้บูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการตรวจ ติดตามหาข่าว และดำเนินการจับกุมผู้กระทำผิดแต่ส่วนใหญ่จะเป็นรายย่อยและจับได้บนฝั่งที่มีการนำขึ้นรถขนย้าย ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่จับกุมได้ประมาณมากและจับได้ในทะเลแสดงถึงความเข้มแข็งของการบูรณาการด้านการข่าวของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและความอดทน เสียสละของเจ้าหน้าที่ในการปกป้องความมั่นคงทางทะเล