เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



"ศรีสะเกษ"เกิดวาตภัย 21 อำเภอ เร่งเตรียมการบริหารจัดการน้ำ


5 มิ.ย. 2563, 18:57



"ศรีสะเกษ"เกิดวาตภัย 21 อำเภอ เร่งเตรียมการบริหารจัดการน้ำ




เมื่อวันที่ 5 มิ.ย. 63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  ที่ห้องประชุมศรีพฤทเธศวร ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดศรีสะเกษ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ  นายวัฒนา  พุฒิชาติ ผวจ.ศรีสะเกษ พร้อมด้วยนายสำรวย  เกษกุล รอง ผวจ.ศรีสะเกษ  นายบุญประสงค์  นวลสายย์  หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดศรีสะเกษ นายอำเภอ ผู้บริหารท้องถิ่น และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมประชุมศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัดศรีสะเกษ เพื่อเตรียมความพร้อมป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย และดินถล่ม ปี 2563 



นายวัฒนา  พุฒิชาติ  ผวจ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า ในปี 2563 จ.ศรีสะเกษได้เกิดเหตุวาตภัย 21 อำเภอ ยกเว้น อ.บึงบูรพ์  อำเภอเดียว ซึ่ง จ.ศรีสะเกษ  ได้ให้ความสงเคราะห์และช่วยเหลือซ่อมแซมบ้านเรือนราษฎร และมีการมอบถุงยังชีพให้การช่วยเหลือ  ซึ่งในวันจันทร์ที่ 8 มิถุนายน 2563 นี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฯ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ นายจรัลธาดา  กรรณสูตร องคมนตรีและคณะฯ เชิญสิ่งของพระราชทานมามอบให้แก่ผู้ที่ประสบวาตภัย ทั้ง 21 อำเภอ โดยจะมีการมอบสิ่งของพระราชทานที่ อ.ไพรบึง ซึ่งจะมีนายอำเภอทั้ง 21 อำเภอ เป็นตัวแทนเข้ารับมอบ เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19  จึงไม่สามารถที่จะให้ประชาชนจำนวนมากมารวมตัวเพื่อเข้ารับมอบสิ่งของได้ จากนั้นองคมนตรีจะลงพื้นที่เยี่ยมผู้สูงอายุ ผู้พิการ และผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากวาตภัย ในพื้นที่ อ.ไพรบึง จำนวน 10 ครัวเรือน และพื้นที่ อ.ขุขันธ์ จำนวน 10 ครัวเรือน

ทางด้าน นายสำรวย  เกษกุล รอง ผวจ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า  ในการบริหารจัดการน้ำโดยใช้ระบบธนาคารน้ำใต้ดินว่า  จากการที่ได้ดูตามโครงการจิตอาสาต้านภัยแล้ง  ทางศูนย์อำนวยการใหญ่จิตอาสา และศูนย์บัญชาการจิตอาสาจังหวัด  จะเน้นเรื่องระบบน้ำ ซึ่งใน 8 กิจกรรมจะมีเรื่อง ระบบธนาคารน้ำใต้ดินทำการขุดแหล่งน้ำใหม่ แหล่งน้ำเดิมและมีระบบการเชื่อมน้ำในคลอง ซึ่งเป็นระบบน้ำใต้ดิน ซึ่ง จ.ศรีสะเกษ ได้ให้อำเภอโดยเฉพาะอำเภอที่ประกาศพื้นที่ประสบภัยลองไปทำ  เท่าที่ดูจากการประเมินเบื้องต้น บางที่ก็ยังขุดไม่ถึงระดับที่เป็นไปตามระบบ ซึ่งตามความเป็นจริงแล้ว งบประมาณที่ใช้เรื่องระบบธนาคารน้ำใต้ดินก็ใช้ไม่มาก ถ้าท้องถิ่นเองให้ความสำคัญและนำส่วนนี้มาใช้ก็คิดว่าน่าจะได้ประโยชน์ โดยเฉพาะการเติมน้ำใต้ดินลงไป จะทำให้ในพื้นที่เกิดความชุ่มชื้นและสามารถที่จะนำน้ำที่เติมลงไปกลับขึ้นมาใช้ได้อีก  ตนคิดว่าน่าจะสามารถแก้ไขปัญหาภัยแล้งได้







Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.