เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



ปธ.กมธ.แก้ยากจนลดความเหลื่อมล้ำ ขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาน้ำอย่างยั่งยืน จ.สกลนคร


6 มิ.ย. 2563, 18:15



ปธ.กมธ.แก้ยากจนลดความเหลื่อมล้ำ ขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาน้ำอย่างยั่งยืน จ.สกลนคร




วันที่ 5 มิ.ย. 63 ที่ห้องประชุมกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 23 อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร รศ.ดร.สังศิต พิริยะรังสรรค์ ประธานคณะกรรมาธิการการแก้ไขปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำ วุฒิสภา พร้อมคณะ ลงพื้นที่สร้างความรู้ ความเข้าใจ ในเรื่องแหล่งน้ำขนาดเล็กเพื่อการแก้ไขปัญหาความยากจนฯ ในพื้นที่จังหวัดสกลนคร โดยมีนายชัยมงคล ไชยรบ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสกลนคร ดร.ศักดิ์ไทย สุรกิจบวร สมาชิกวุฒิสภาจังหวัดสกลนคร นายเกียว แก้วสุทอ สมาชิกวุฒิสภาจังหวัดสกลนคร และคณะผู้บริหารขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจังหวัดสกลนคร จังหวัดนครพนม และจังหวัดมุกดาหาร ให้การต้อนรับ พร้อมรับฟังรูปแบบการแก้ไขปัญหาภัยแล้ง ในรูปแบบ 10 แนวทางพัฒนาเพื่อท้องถิ่นพึ่งพาตนเอง ประกอบด้วย

รูปแบบบ่อบาดาลน้ำตื้น รูปแบบสระซอยซีเมนต์ รูปแบบชุดสูบน้ำโซล่าเซลล์ ซับเมอร์สแบบบัสเลสและชุดโครงสร้างรับแผงโซล่าเซลล์พร้อมอุปกรณ์ รูปแบบชุดหอถังพักน้ำ รูปแบบชุดระบบกระจายน้ำ รูปแบบฝายต้นน้ำแกนซอยซีเมนต์ รูปแบบฝายในลำห้วยแกนซอยซีเมนต์ รูปแบบฝายในลำน้ำแกนซอยซีเมนต์ รูปแบบธนาคารน้ำ 3 ประโยชน์หรือบ่อน้ำตื้น  และรูปแบบบ่อเติมน้ำลงสู่ชั้นใต้ดิน ซึ่งประธานคณะกรรมาธิการการแก้ไขปัญหาความยากจน และลดความเหลื่อมล้ำ วุฒิสภา ได้แถลงต่อเวทีการประชุมวุฒิสภาครั้งที่ 3 สมัยสามัญประจำปีครั้งที่ 1

จากนั้นประธานกรรมาธิการการแก้ไขปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำ วุฒิสภา พร้อมคณะผู้บริหารองค์การบริหารส่วนจังหวัดสกลนคร จังหวัดนครพนมและจังหวัดมุกดาหาร ได้ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ของทางกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 23 สำรวจปริมาณน้ำของ อ่างเก็บน้ำห้วยทรายขมิ้น เขื่อนน้ำอูน เขื่อนน้ำพุง ประตูน้ำสุรัสวดี ลำน้ำก่ำ และสภาพภัยแล้งของอำเภอเต่างอย ซึ่งพบว่าปริมาณน้ำเก็บกักยังมีน้อย จากนั้นคณะฯได้เข้าเยี่ยมชมนิทรรศการ โดยศูนย์ปฏิบัติการบรรเทาภัยอันเกิดจากน้ำนำมาจัดแสดง โดยมีนายภัทรพล ณ หนองคาย ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการบรรเทาภัยอันเกิดจากน้ำ พร้อมทีมที่ปรึกษาซึ่งเป็นจิตอาสาของศูนย์ฯ ได้บรรยายองค์ความรู้รูปแบบการได้มาซึ่งน้ำดิบด้วยต้นทุนที่ต่ำ สำหรับใช้ในภาคเกษตรกรรม ด้วยการใช้นวัตกรรมต่างๆ ที่ทางศูนย์ฯ ได้จัดทำขึ้นในรูปแบบ 10 แนวทางพัฒนาเพื่อท้องถิ่นพึ่งพาตนเอง

โดย นายชัยมงคล ไชยรบ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสกลนคร กล่าวว่า ในเบื้องต้นจะได้ดำเนินการจัดหาพื้นที่และงบประมาณเพื่อนำมาจัดทำเป็นโครงการนำร่องตาม 10 แนวทางฯ ที่ได้รับข้อมูลและความรู้ สำหรับให้ทางผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นภายในจังหวัด ประชาชนและเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ภัยแล้ง ได้เข้าศึกษาและร่วมขับเคลื่อนต่อยอดโครงการ ตามแนวทางช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 ของรัฐบาลต่อไป

จากนั้นวันที่ 6 มิ.ย. 63 ประธานกรรมาธิการการแก้ไขปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำ วุฒิสภา พร้อมคณะได้ขึ้นบิน โดยเฮลิคอปเตอร์ของทางกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 23 เพื่อสำรวจพื้นที่หนองหารต่อเนื่องลำน้ำก่ำก่อนไหลลงสู่แม่น้ำโขงที่ อ.ธาตุพนม จ.นครพนม  โดย รศ.ดร.สังศิต พิริยะรังสรรค์ ประธานคณะกรรมาธิการฯ กล่าวว่า  จากการลงพื้นที่ดูสภาพแหล่งน้ำทั้งในจังหวัดสกลนคร และนครพนม ทั้ง 2 วันที่ผ่านมา พบว่าหนองหารเป็นแหล่งน้ำขนาดใหญ่และสำคัญมาก กฎหมายเดิมซึ่งออกเมื่อปี พ.ศ. 2484 นั้นอาจไม่สอดรับกับภาวการณ์ในปัจจุบัน ซึ่งตรงนี้ควรมีการทบทวนเพื่อให้เกิดประโยชน์แก่เกษตรกรให้มากยิ่งขึ้น 

จ.สกลนคร ถือเป็นพื้นที่ที่มีความอุดมสมบูรณ์ เพราะมีห้วย หนองคลองบึง อยู่เป็นจำนวนมาก  สำหรับหนองหารก็มีผลทั้งต่อสกลนคร รวมถึงนครพนม สำหรับการแก้ปัญหาภัยแล้ง และอุทกภัยอย่างยั่งยืนนั้น ควรเพิ่มพื้นที่เก็บกักน้ำของหนองหารให้มากขึ้น ส่วนน้ำก่ำซึ่งพบว่ามีน้ำไม่เพียงพอต่อภาคการเกษตรในช่วงฤดูแล้ง  การแก้ปัญหาโดยการนำยุทธศาสตร์การบริหารจัดการแหล่งน้ำขนาดเล็กมาใช้จะเหมาะที่สุด โดยสร้างฝายซอยซีเมนต์จะตอบโจทย์การอนุรักษ์น้ำในช่วงฤดูแล้งได้เป็นอย่างดี โดยเกษตรกรจะมีน้ำใช้ได้ทั้งปี ใช้งบประมาณที่ไม่มาก และสามารถปรับใช้ได้ในทุกแหล่งน้ำในภาคอีสาน

นอกจากนี้ เกษตรกรควรแบ่งพื้นที่การเพาะปลูก ซึ่งจากเดิมที่นิยมทำนาเพียงอย่างเดียว ให้หันมาปลูกผลไม้เศรษฐกิจเพิ่มมากขึ้น เช่น ทุเรียน มังคุด เงาะ ฯ โดยมีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ร่วมกับจังหวัด บูรณาการการทำงานร่วมกันในการส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีแก่เกษตรกร โดยการทำแผนการเกษตรที่ชัดเจน เพื่อลดปัญหาหนี้สินเกษตรกร  ทั้งในระดับจังหวัด ตลอดจนภูมิภาค เมื่อทุกลุ่มน้ำในภาคอีสานขับเคลื่อนไปพร้อมกัน และภาคการเกษตรซึ่งเป็นรากฐานของชาติมั่นคงดีแล้ว ก็จะส่งผลต่อเศรษฐกิจในระดับประเทศที่จะเจริญเติบโตอย่างมั่งคงและยั่งยืนต่อไป รศ.ดร.สังศิต พิริยะรังสรรค์ กล่าว




ที่มา sakonnakhon






Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.