ผบ.ทสส.ลั่นฟันโทษสูงสุด ผู้ประกอบการปล่อยการ์ดตกหย่อนมาตรการคุมโควิด-19
7 มิ.ย. 2563, 18:13
จากกรณีโรงภาพยนตร์ของห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในพื้นที่กรุงเทพฯ ได้มีการใช้พื้นที่อย่างไม่เหมาะสม ภายหลังจากที่รัฐบาลได้มีการประกาศผ่อนคลายมาตรการระดับที่ 3 โดยได้มีการจัดกิจกรรมไลฟ์ภายในโรงภาพยนตร์เพื่อเปิดตัวนักแสดงวัยรุ่น จนนำไปสู่การรวมตัวของกลุ่มแฟนคลับที่เดินทางมารอพบศิลปินที่ชื่นชอบเป็นจำนวนมาก ถือเป็นสัญญาณอันตรายในการแพร่กระจายของเชื้อโรค เนื่องจากขาดการควบคุมด้านการเว้นระยะห่างระหว่างบุคคลให้เป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยตามที่รัฐบาลกำหนด จนนำไปสู่การปิดให้บริการของโรงภาพยนตร์ดังกล่าวเป็นระยะเวลา 3 วัน นั้น
วันนี้ ( 7 มิ.ย.63 ) พลตรี ธีรพงศ์ ปัทมสิงห์ ณ อยุธยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าว พลเอก พรพิพัฒน์ เบญญศรี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด/หัวหน้าศูนย์ปฎิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง (หน.ศปม.) มีความห่วงใยต่อสถานการณ์การแพร่รบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) จึงขอความร่วมมือผู้ประกอบการห้างร้านและเน้นย้ำให้ประชาชนผู้ใช้บริการภายในห้างสรรพสินค้าหรือสถานที่ในแหล่งชุมชนต่าง ๆ ยังคงร่วมกันปฏิบัติตามมาตรการหลัก 5 ข้อโดยเคร่งครัด ได้แก่ หมั่นล้างมือด้วยสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์บ่อย ๆ สวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งที่ออกจากบ้าน สำหรับผู้ประกอบการห้างร้านควรจัดเตรียมเจลแฮลกอฮอล์สำหรับใช้ทำความสะอาดให้มีความเพียงพอต่อผู้มาใช้บริการ หมั่นล้างทำความสะอาดสถานที่และพื้นผิวสัมผัส และกำหนดให้ผู้เข้าใช้บริการมีการเว้นระยะห่างระหว่างบุคคลโดยเคร่งครัด เพราะการประกาศมาตรการผ่อนคลายในระยะต่าง ๆ ที่ผ่านมานั้น มีวัตถุประสงค์เพื่อลดผลกระทบในการดำเนินชีวิตประจำวันของพี่น้องประชาชนเพื่อให้สามารถดำเนินชีวิตได้ใกล้เคียงภาวะปกติมากที่สุด แต่มิได้หมายความว่าเราจะสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติเหมือนในอดีตที่ผ่านมา ซึ่งอาจเกิดความสุ่มเสียงในการแพร่กระจายของเชื้อโรคจนนำไปสู่การแก้ไขได้ยากยิ่งในอนาคต
พร้อมทั้งแจ้งเตือนให้สถานบริการต่าง ๆ ยังคงรักษามาตรฐานในการคัดกรองและจัดสถานที่ให้มีความเหมาะสม เพื่อไม่ให้เกิดความแออัดของผู้มาเข้าใช้บริการซ้ำรอยโรงภาพยนตร์ดังกล่าว โดยหากตรวจพบว่ามีการฝ่าฝืน จะมีการดำเนินการตามกฎหมายตามโทษสูงสุดโดยทันที
ทั้งนี้ขอความร่วมมือทุกคนทุกฝ่ายโปรดอย่าหละหลวมในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรค แม้ภาพรวมของสถานการณ์จะดีขึ้นโดยลำดับ แต่วินัยของคนในชาติคือสิ่งสำคัญที่จะพาประเทศไทยก้าวข้ามผ่านสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ไปได้ด้วยความร่วมมือของชาวไทยทุกคน