"วัดทุ่งหลวง" เชิญชวนให้ทานอาหารไก่แจ้กว่า 300 ตัว
9 มิ.ย. 2563, 15:41
( 9 มิ.ย. 63 ) ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ที่บริเวณวัดทุ่งหลวง ตั้งอยู่หมู่ที่ 2 ต.ทุ่งหลวง อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี เป็นวัดที่มีต้นไม้น้อยใหญ่คอยให้ร่มเงาดูร่มรื่น ที่ข้างวัดมีเจดีย์ทรงโบราณเก่าแก่อายุประมาณ 200 ปี ซึ่งมีการบูรณะทาสีใหม่สีทองเหลืองอร่ามคงความงดงามควรค่าแก่การอนุรักษ์ โดยก่อนที่จะเกิดสถานการณ์โรคโควิด -19 ที่วัดจะจัดกิจกรรมปฏิบัติธรรมในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนามาโดยตลอด มีกิจกรรมต่างๆ และมีนักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมมีญาติโยมมาปฏิบัติธรรมทุกวันสำคัญของไทย แต่ช่วงนี้ต้องงดเว้นไปก่อน
นอกกจากนี้มีชาวบ้านที่มีความเชื่อเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ก็จะมาบนบานศาลหลวงปู่ดำ และศาลชีปะขาว ซึ่งทั้ง 2 ศาล มีความเก่าแก่ อยู่คู่กับวัดทุ่งหลวงมานาน ทราบมาจากอดีตเจ้าอาวาสรูปเก่าว่าเป็นศาลที่มีอายุกว่า 100 ปี มาแล้ว ส่วนโบสถ์เก่าไม่ค่อยทราบความเป็นมาเพราะยังเป็นเด็ก สมัยตอนเป็นนักเรียนก็เห็นโบสถ์นี้สร้างไว้แล้วในการบวชพระและยังเป็นโบสถ์มหาอุด คือ สร้างด้วยศิลาแลงไม่มีหน้าต่างและมีประตูทางเข้าทางเดียว
นายสงกรานต์ อ่วมอาบ อายุ 58 ปี ชาวบ้านหมู่ที่ 2 กล่าวว่า ศาลหลวงปู่ดำ และศาลปู่ชีปะขาวนั้น จะมีชาวบ้านชอบมาขอบนบานช่วยเหลือเรื่องต่าง ๆ และชอบประทัดมาก ถ้าใครจะมาบนบานเรื่องการเป็นทหารให้มาขอได้ที่ศาลแห่งนี้ได้เลย แต่ถ้าใครไม่อยากเป็นทหารเมื่อมาขอแล้วก็จะถูกการเลือกเป็นทหารกันทุกคนทันที ถ้าไม่อยากเป็นทหารจะได้เป็น แล้วถ้าอยากเป็นทหารจะได้เป็นทันทีสมใจ ที่ศาลนี้จะชอบทหารมาก มีตัวอย่างคือ สมัยรุ่นที่ตนเองเคยเป็นเด็กวัด จะมีพระเกือบทุกรูปมาขอพรหลวงปู่ที่ศาลนี้ว่าขอไม่ให้เป็นทหาร แต่พอสึกออกไปจากวัดเพื่อคัดเลือกจับได้ใบแดงกันทุกคน ทำให้เรื่องทราบถึงอดีตเจ้าอาวาสรูปก่อนท่านหัวเราะชอบใจและยังบอกว่า ก็อยากไปขอท่านเอง และท่านยิ่งชอบการเป็นทหารเสียด้วย และยังมีชาวบ้านมาขอโชคขอลาภด้วย ขอเรื่องกิจการงานก็สำเร็จมาแล้วหลายคน สมัยก่อนเป็นศาลเก่าโบราณเล็กๆ ต่อมาเจ้าอาวาสได้บูรณะขึ้นใหม่อย่างสวยงาม ซึ่งก่อนหน้านี้เมื่อสมัยก่อนเจ้าอาวาสวัดเคยย้ายทั้ง 2 ศาล ไปไว้อีกที่หนึ่ง แต่หลวงปู่ได้ไปเข้าฝันหลวงพ่อเพื่อขอให้ย้ายศาลของท่านกลับคืนที่เดิม เจ้าอาวาสก็เลยย้ายท่านกลับ โดยรูปองค์ที่อยู่ในศาลเป็นมาแบบนี้ดั้งเดิมมานานมากแล้ว
นอกจากนี้ที่วัดยังมีฝูงไก่แจ้มีสีสันสวยงามเกือบ 300 ตัว ที่ได้ออกลูกออกหลานหลายฝูง คอยคุ้ยเขี่ยหาอาหารและรอข้าวก้นบาตรจากพระในวัดที่ได้นำมาหว่านเลี้ยงดูทุกวันด้วยความเมตตา กลายเป็นจุดสนใจของชาวบ้านที่เดินทางมาทำบุญที่วัด ก็จะมาคอยดูฝูงไก่แจ้ที่มีลักษณะขนสวยงามหลากสี ทั้งสีขาว สีเขียว สีส้มอมเหลืองผสมกันเดินอวดโฉม บางตัวก็จะส่งเสียงขันเป็นระยะอาศัยอยู่ใต้ต้นไม้ แยกกันอยู่เป็นกลุ่มใหญ่ หลายกลุ่มทั่วบริเวณวัด
พระครูภาวนาวุฒิคุณ เจ้าอาวาสวัดทุ่งหลวง เปิดเผยว่า เมื่อกว่า 10 ปีที่แล้วได้เอาไก่มาเลี้ยงไว้ 2 ตัว ต่อมาได้ขยายพันธุ์ออกมาจำนวนมาก ที่วัดจะไม่มีการทำร้ายสัตว์เป็นเขตอภัยทาน ไม่มีใครมารบกวน และยังมีพระลูกวัดคอยเอาข้าวก้นบาตรจากที่เหลือจากบิณฑบาตเสร็จแล้ว เอามาให้สุนัขก็จะเอามาเลี้ยงไก่แจ้จนเกิดความเชื่องมารอกินทุกวัน คาดว่าน่าจะมีอยู่กว่า 200 ตัว แต่บางวันก็ออกบิณฑบาตได้ข้าวมาน้อย ก็จะไม่ค่อยเพียงพอที่จะนำแบ่งให้กินกัน ซึ่งหากใครที่สงสารหรืออยากจะช่วยเหลือสัตว์ก็สามารถนำอาหารมาบริจาคทำบุญได้ที่วัดทุกวัน ถือเป็นการให้ทานแก่สัตว์ ขณะที่ก่อนหน้านี้เคยมีประชาชนมาขอไก่แจ้ไปเลี้ยง แต่ก็ไม่ค่อยได้ให้ไป เพราะกลัวจะเอาไก่แจ้ไปแข่งขันตีกัน
นอกจากมีฝูงไก่แจ้นับร้อยตัวแล้ว ที่นี่ยังมีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์เป็นหลวงพ่ออู่ทองอายุเกือบ 200 ปี อยู่ในศาลาหอฉันท์ เดิมพระพุทธรูปองค์นี้จะอยู่ในโบสถ์เก่าที่ถูกรื้อถอนไปแล้ว ส่วนเจดีย์สีทองอร่ามนี้ 2 องค์แรกเป็นเจดีย์สมัยเก่าโบราณแปลกตาอายุราวๆเกือบ 200 ปี ด้านในเจดีย์ได้บรรจุกระดูกคนโบราณไว้ ต่อมาช่วงหลังวัดได้สร้างเจดีย์องค์ริมบรรจุอัฐิของพระครูสิริวุฒิกร หรือ หลวงพ่อปิ๋ว อดีตเจ้าอาวาสวัดทุ่งหลวง ซึ่งได้เป็นผู้สร้างวัดทุ่งหลวงมีรูปติดไว้ที่ด้านหน้าเจดีย์ด้วย โดยเจดีย์ 2 องค์ ที่ตั้งคู่กันจะมีลักษณะรูปทรงแปลกตา ในสมัยก่อนที่จะทาสีนั้น จะมีสภาพเจดีย์ก่อด้วยอิฐแดงโบราณ คาดว่าก่อสร้างในสมัยชาวมอญ แต่บางคนบอกว่าเป็นลักษณะสมัยสุโขทัย และสมัยอยุธยายังไม่ชัดเจน
ผู้สนใจจะถวายอาหารไก่ ติดต่อได้ที่พระครูภาวนาวุฒิคุณ เจ้าอาวาสวัดทุ่งหลวง โทร 087 - 0408752