กาญจนบุรีคืบหน้า กองปราบบุกจับเจ้าอาวาสมั่วสีกา ชาวบ้านเชื่อเรื่องนี้อาจมีเบื้องหลัง ชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงวัดพุประดู่ ยอมรับตกใจกับข่าวที่เกิดขึ้น ชี้ หลวงพ่อเป็นพระนักพัฒนา ไม่คิดว่าจะทำเรื่องเสียหาย เชื่อเรื่องนี้อาจมีเบื้องหลัง ขณะที่พระลูกวัดเผย ไม่เคยเห็นความผิดปกติระหว่างหลวงพ่อ กับสีกาคนที่เป็นข่าว จนถึงตอนนี้ยังเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง ส่วนตำแหน่งเจ้าอาวาสที่ว่างลง ต้องรอการแต่งตั้งจากเจ้าคณะจังหวัด

ความคืบหน้า กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม บุกรวบพระสรรเสริญ เจ้าอาวาสวัดพุประดู่ ตำบลหนองบัว อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี ขณะกำลังมีเพศสัมพันธ์กับ นางเอ นามสมมติ โดยพระสรรเสริญ ให้การรับสารภาพว่ามีความสัมพันธ์กับ นางเอ จริง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เชิญตัวพระสรรเสริญ ไปทำการลาสิกขา กับเจ้าคณะอำเภอเมืองกาญจนบุรี ที่วัดไชยชุมพลชนะสงคราม

ล่าสุดวันนี้ (10 มิ.ย. 2563) ผู้สื่อข่าว ONB news ได้เดินทางลงพื้นที่วัดพุประดู่ พบว่ามีชาวบ้านหลายคน เดินทางมารวมตัวกันที่วัดพร้อมจับกลุ่มพูดคุยถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น แต่ไม่พบตัวของอดีตเจ้าอาวาสวัดพุประดู่แต่อย่างใด โดยชาวบ้านที่มารวมตัวกัน ต่างวิพากษ์วิจารณ์พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ตกใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นและไม่คิดว่าเรื่องดังกล่าวจะเป็นความจริง เพราะที่ผ่านมา อดีตเจ้าอาวาสวัดพุประดู่ ถือเป็นพระที่ดี มีความใกล้ชิดกับชาวบ้านและเป็นพระนักพัฒนา นำความเจริญมาสู่วัดและชอบช่วยเหลือชาวบ้าน

นางสำรวย มีทองคำ อายุ 66 ปี (เสื้อดำลายจุด) กล่าวว่า รู้สึกตกใจและเสียใจเมื่อได้รู้ข่าวดังกล่าวเป็นอย่างมาก โดยที่ผ่านมา อดีตเจ้าอาวาสวัดพุประดู่ท่านนี้ ถือเป็นพระที่ดีและไม่เคยมีความประพฤติเสื่อมเสีย แถมยังเป็นพระที่นำความเจริญเข้ามาสู่วัดพุประดู่เป็นอย่างมาก โดยส่วนตัวแล้ว ยังเชื่อว่าข่าวที่ออกมาน่าจะไม่ใช่เรื่องจริงและอดีตเจ้าอาวาสอาจจะถูกกลั่นแกล้งจัดฉาก

ขณะที่เมื่อสอบถามจากพระลูกวัด ทางพระอำพัน จันทะธัมโม พระลูกวัดพุประดู่ กล่าวว่า ตามปกติ หลวงพ่อจะไม่ค่อยได้อยู่วัด ส่วนใหญ่จะเดินทางไปพบญาติโยมเพื่อหาเงินบริจาคมาพัฒนาวัด ซึ่งตอนนี้ ทางวัดเองก็กำลังต่อเติมศาลาการเปรียญของทางวัดให้เสร็จสมบูรณ์อยู่ โดยกุฎิของหลวงพ่อ ก็อยู่ภายในศาลาการเปรียญหลังนี้ โดยเป็นห้องที่มีประตูกระจกกั้นทางเข้าไว้ ไม่ได้มีรั้วกั้นเป็นการส่วนตัวแต่อย่างใด ซึ่งในวันเกิดเหตุ พระอำพัน ก็กำลังทำความสะอาดอยู่ที่กุฏิของตนเอง จึงไม่ทราบถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

แต่หลวงพ่อนั้น ถือเป็นพระนักพัฒนา ชอบที่จะสร้างความเจริญให้วัด มีการจัดโครงการไถ่ชีวิตโคกระบือจนทำให้วัดเป็นที่รู้จักมากขึ้น แต่หลวงพ่อมักจะถูกชาวบ้านบางส่วนต่อว่า เรื่องที่วัวที่ถูกไถ่ชีวิตมาอยู่ที่วัด มักจะหลุดไปกินพืชผลทางการเกษตรของชาวบ้าน แต่ก็ไม่เคยมีปัญหาเรื่องพฤติกรรม โดยเฉพาะเรื่องชู้สาวมาก่อน ส่วนสีกาคนที่พบในกุฏิหลวงพ่อนั้น ยอมรับว่าเคยเห็นมาทำบุญที่วัดบ่อยครั้ง แต่ก็ไม่เคยเห็นว่ามีความสนิทสนมกับหลวงพ่อเป็นพิเศษ เป็นเหมือนญาติโยมที่มาทำบุญกับพระตามปกติ

โดยส่วนตัวเมื่อเห็นข่าวแล้วก็ยอมรับว่าตกใจ แต่ก็ยังไม่ได้ปักใจเชื่อตามข่าวที่ออกมาทั้งหมด ส่วนเรื่องของการดูแลวัด เมื่อหลวงพ่อถูกจับสึกไปแล้วนั้น จากนี้ พระที่เหลืออยู่ในวัดจำนวน 2 รูป และสามเณรอีก 3 รูป ก็คงจะต้องช่วยกันดูแลไปก่อนและรอให้ทางเจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี ส่งรักษาการเจ้าอาวาสมาดูแลวัดต่อไป