สาวรับจ้างลงทะเบียน "เงินเยียวยา" ให้ป้า 67 ปี ยอมรับโพสต์ด่าจริง เหตุเก็บค่าหัวคิวไม่ได้ เผยก่อนหน้าตกลงกันแล้ว
11 มิ.ย. 2563, 19:36
สาววัย 32 ปี ที่รับลงทะเบียนขอรับเงินเยียวยาให้ชาวบ้าน ยอมรับโพสต์ต่อว่าป้าวัย 67 ปี จริง แค่ระบายอารมณ์ กับเพื่อนๆ เท่านั้น ทั้งหมดตกลงกันก่อนแล้ว ขณะผู้ใหญ่บ้านระบุ จะต้องฟังคำสองฝ่าย ต้องมาพูดคุยกัน แต่เป็นเงินที่รัฐช่วยไม่ได้ให้แบ่งใคร เผยสาวคนนี้รับลงทะเบียนให้ 8 ราย ได้เงินมา 5 ราย
วันที่ 11 มิ.ย.63 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า กรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กส่วนตัว ด้วยความว่า “หลบได้หลบไปนะ..ระวังจะเจอดีนะ..ได้แล้วทำเป็นลืม..เดียวมึงไม่ตายดี..อีแก่” โดยมีเพื่อนในเฟซบุ๊กออกมาสอบถามและแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก จนต่อมาชาวบ้านได้เอาข้อความในเฟซบุ๊กดังกล่าว ไปให้นางเทียม (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 67 ปี ต.บ้านยาง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ และ ลูกชายนางเทียม ดู ซึ่งชาวบ้านรู้ว่า ข้อความดังกล่าวหมายถึงการข่มขู่สองแม่ลูก เนื่องจากไม่ยอมจ่ายเงินค่าหัวคิว เงินเยียวยางวดสุดท้ายจำนวนเงิน 500 บาท ทำให้สองแม่ลูกตกใจ และหวาดกลัว เกรงจะได้รับอันตราย โดยเฉพาะนางเทียม ที่ส่วนใหญ่อาศัยอยู่บ้านตามลำพัง
ความคืบหน้าล่าสุดลูกชายนางเทียม ได้ออกมาระบุว่า จริงแล้วเงินเยียวยา ตนได้รับเงินเยียวยาเพียงคนเดียว แม่ไม่ได้รับ ก่อนหน้านี้หลังทราบข่าวจากรัฐบาล ก็หาวิธีที่จะลงทะเบียน แต่ครอบครัวไม่มีโทรศัพท์แบบสมาร์ทโฟน จึงไปขอให้ น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 32 ปี เพื่อนบ้านทำให้ และสัญญาว่าจะให้สินน้ำใจ
จนกระทั่งเงินออก น.ส.เอ (นามสมมุติ) ก็มาแจ้งว่าเงินเข้าแล้ว โดยได้รับเป็นเงินตกเบิก 2 เดือน ก้อนแรก 10,000 บาท ก็จ่ายให้ น.ส.เอ (นามสมมุติ) เป็นสินน้ำใจ 1,000 บาท พอเงินออกก้อนสุดท้าย 5,000 บาท น.ส.เอ (นามสมมุติ) ก็มาทวงถามเงินค่าหัวคิวอีก 500 บาท ส่วนตัวคิดว่าได้จ่ายไปแล้ว กระทั่งมีชาวบ้านเอาเฟซบุ๊กมาให้ดูจึงตกใจ
ขณะที่ น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 32 ปี ผู้ถูกกล่าวหา ได้ออกมาชี้แจงว่า ปกติก็อยู่บ้าน วันนั้นลูกชายนางเทียม มาขอให้ลงทะเบียนรับเงินเยียวยาให้ จึงบอกไปว่า จะให้เงินรางวัลเท่าไหร่ ก่อนจะมีการตกลงกัน ว่าจ่ายหัวคิวงวดละ 500 บาท มีชาวบ้านได้ยินกว่า 10 คน ที่ผ่านมาตนรับลงทะเบียนให้ชาวบ้านจำนวน 8 ราย ได้รับเงินเยียวยา 5 ราย ทั้ง 5 ราย ก็จ่ายตามข้อตกลงคืองวดละ 500 บาท เพราะตนก็มีค่าใช้จ่ายเลี้ยงลูกหลายคน ส่วนการเอาข้อความลงเฟซบุ๊ก ตนรู้ดีว่าครอบครัวนี้ไม่ได้เล่นเฟซบุ๊ก ที่โพสต์ก็แค่ระบายอารมณ์ส่วนตัว ไม่ได้มีการข่มขู่แต่อย่างใด
ด้านนายชุมพล ยิงรัมย์ อายุ 40 ปี ผู้ใหญ่บ้าน ได้ออกมาระบุเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวว่า ตอนนี้ ฟังความข้างเดียว โดยจะเรียกทั้งสองฝ่ายมาสอบถามและไกล่เกลี่ย จากที่ทราบเงินดังกล่าวเป็นเงินของรัฐบาลที่ช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19 ไม่จำเป็นต้องไปแบ่งให้ใคร ทั้งนี้จะต้องฟังความทั้งสองฝั่งว่ามีการตกลงอะไรกันไว้หรือไม่ โดยจะยึดถือความสามัคคีเป็นหลัก