"นายกอบจ.สกลนคร" มอบเงินช่วยเหยื่อไฟไหม้ รายละ 5,000 บาท
13 มิ.ย. 2563, 09:27
เมื่อเวลา 22.30 น. ของวันที่ 5 มิถุนายน 2563 ที่ผ่านมา ได้เกิดเพลิงไหม้ที่ซอยเจริญเมือง 16 ชุมชนวัดเหนือ-ศรีโพนเมือง ใจกลางเขตเทศบาลนครสกลนคร เพลิงได้ลุกลามอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้เนื่องจากวันเกิดเหตุมีลมแรงและบ้านเรือนราษฎรเป็นไม้ปลูกติดกันซึ่งเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ทำให้บ้านเรือน 4 หลังได้รับความเสียหาย
ทั้งนี้ เนื่องจากที่เกิดเหตุเป็นซอยแคบ รถดับเพลิงเข้าไประงับเหตุไม่สะดวก เคราะห์ดีที่ไม่มีผู้ใดได้รับอันตราย ความคืบหน้าของเรื่องนี้ วันที่ 13 มิถุนายน 2563 นายชัยมงคล ไชยรบ นายก อบจ.สกลนคร ลงพื้นที่เยี่ยมผู้ประสบภัย และมอบเงินส่วนตัวให้ รายละ 5,000 บาท รวมทั้งสิ้น 20,000 บาท พร้อมรับปากยินดีที่จะช่วยเหลือหากมีอะไรขาดตกบกพร่อง เช่นเดียวกับ นายโกมุท ทีฆธนานนท์ นายกเทศมนตรีนครสกลนคร นำคณะเดินทางมาเยี่ยมให้กำลังใจ และมอบเงินจำนวน 28,000 บาท ในขณะที่ นายสุรชัย ศักดิ์สัมฤทธิ์ ประธานเมตตาธรรมมูลนิธิ มอบเงินสดพร้อมสิ่งของเครื่องอุปโภคบริโภคเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้น
นอกจากนี้ คณะครูโรงเรียนบ้านหนองไผ่ ต.ดงมะไฟ อ.เมือง จ.สกลนคร นำโดย นางภาวนา วงค์ษาดา ครูชำนาญการพิเศษ รอง ผอ.โรงเรียนบ้านหนองไผ่ นำส่ง ข้าวสาร อาหารแห้ง เครื่องนุ่งห่ม และเงินสดอีกจำนวนหนึ่ง ที่ได้ร่วมกับชาบ้าน และนักเรียน ร่วมบริจาคเงินสดมามอบให้กับ น.ส.สุธาสินี สกุลวิริยะ หรือจูน บ้านเลขที่ 1625 ถนนเจริญเมือง ซอย 16ข้าราชการครูโรงเรียนบ้านหนองไผ่ เป็นหนึ่งในบ้านที่ถูกไฟไหม้ บางรายเป็นนักเรียนกล่าวว่ารู้สึกสงสารครูจูน ที่บ้านโดนไฟไหม้ จึงอยากช่วยเหลือโดยรวบรวมเงินคนละ 20 บาท ร่วมกับชาวบ้านโนนแดง ม.8 ชาวบ้านเหล่านกยูง ม.6
ชาวบ้านหนองไผ่ ม.12 ชาวบ้านหนองไผ่ ม.7 และนางคำปอง ปัญญาสาร แม่บ้านโรงเรียนหนองไผ่ รวบรวมได้เงิน 20,410 บาท ทำเอาครูจูน น้ำตากลั้นอย่างสุดกลั้นและกล่าวขอบคุณที่คนไทยเป็นห่วงกัน
นายชัยมงคล ไชยรบ นายก อบจ.สกลนคร กล่าวว่า น่าเห็นใจครอบครัวที่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากแต่ละครอบครัวเหลือแค่เสื้อผ้าติดตัว ไม่สามารถนำสิ่งของมีค่าออกจากกองเพลิงได้ทัน ปัจจุบัน บางครอบครัวยังต้องไปอาศัยวัดที่อยู่ในชุมชนเป็นที่หลับนอน นี่ก็ใกล้เปิดเทอมแล้ว บางครอบครัวมีนักเรียนที่ต้องดูแล เสื้อผ้านักเรียน สมุดหนังสืออุปกรณ์การเรียน ก็ขอให้กำลังใจพี่น้องผู้ประสบภัยให้สู้ต่อไป หากมีสิ่งใดเร่งด่วนให้ติดต่อมายังอำเภอเมือง ภาครัฐจะเข้ามาดูแล ส่วนการดูแลในระยะยาว ทางจังหวัดจะมีการมอบเงินเพื่อเยียวยาต่อไป