รุกป่าไม่หยุด สวนทุเรียนกลางยอดภูเขา ต้นน้ำเสียหายหนัก
13 มิ.ย. 2563, 15:27
เมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 13 มิย.63 ที่บ้านในหงาว หมู่ที่ 9 ต.หาดยาย อ.หลังสวน จ.ชุมพร นายวิจิตร สัจจารักษ์ หัวหน้าหน่วยป้องกันป่า ที่ ชพ 4 (หลังสวน) พร้อมด้วย ร.ต.ท.วัชระ พัฒน์ทอง รองสารวัตร กก.5 บก.ปทส. ร.ท.กอบศักดิ์ นาคหาญ หัวหน้า ชรต.กอ.รมน.ชพ. ร.ต.อ.จำนง เต็งประยูร รอง สว.กก.สส.ภ.จว.ชุมพร นายณรงค์ สังข์กล่ำ หัวหน้าชุด ปฏิบัติการพิเศษ อุทยานแห่งชาติน้ำตกหงาว และกำลังจำนวนหนึ่ง เดินทางไปยังเป้าหมายที่ตรวจสอบพบการบุกรุกป่าสงวน กลางยอดภูเขาสูง
ภายใน ซอยห้วยส่าน เป็นถนนคอนกรีต ลึกเข้าไปเป็นถนนซอยเล็กไต่ขึ้นไปบนภูเขาสูง จนถึงใกล้ยอดภูเขาต้องเดินเท้าอีก 1 กม. ล้อมรอบไปด้วยป่าสมบูรณ์เขียวชอุ่ม แต่เมื่อเดินเข้าไปพบว่า กลางหุบเขา ที่มีภูเขาขนาดใหญ่ล้อมรอบ เป็นป่าต้นน้ำ ถูกบุกรุกแผ้าถางตั้งแต่ลำห้วย ขึ้นไปตามไหล่ภูเขารอบด้านกลายเป็นสวนทุเรียนหมอนทอง มีอายุ ตั้งแต่ ไม่กี่เดือนจนถึงสองปี นับร้อยๆต้น ใจกลางหุบเขามีบ้านขนาดเล็กไว้พักผ่อน และเก็บอุปกรณ์ทำสวน มีสระน้ำขนาดใหญ่ที่ถูกขุดด้วยรถแบคโฮ พร้อมเครื่องสูบน้ำและการวางท่อน้ำเป็นระบบทั้งท่อขนาดใหญ่ 5นิ้วจนถึงท่อขนาดเล็ก และ ตัวฉีดน้ำ หรือสปริงเกอร์ เพื่อฉีดน้ำเลี้ยงไปทั่วทั้งหุบเขา ในขณะที่ในลำห้วยกลางหุบเขายังคงมีน้ำไหลลงมาจากยอดเขาสูงอย่างต่อเนื่องแต่ไม่มากนัก แสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ของป่าต้นน้ำแห่งนี้ก่อนการถูกบุกรุก
นายวิจิตร หน.ป่าไม้ และ นายณรงค์ หน.ชุดปฏิบัติการ อุทยานแห่งชาติฯ ได้ตรวจสอบพบว่า เป็นพื้นที่รับผิดชอบของ กรมป่าไม้ และ กรมอุทยานแห่งชาติ ต่อเนื่องกัน อีกทั้งกำลังขยายเขตพื้นที่อุทยานฯเพื่อเพิ่มพื้นที่ป่าตามนโยบายของรัฐบาล เบื้องต้นพบว่าพื้นที่ป่าที่ถูกบุกรุกเสียหายไปจำนวนมาก แต่เนื่องจากเป็นพื้นที่ภูเขา จึงต้องตรวจรายละเอียดความเสียหายให้ละเอียดอีกครั้ง แต่ได้ให้ จนท.ทำการปักหมุดแสดงแนวเขตป่าของหน่วยงานทั้งสองอย่างชัดเจน และได้ตรวจยึดพื้นที่ป่าที่ถูกบุกรุกเพื่อจับกุมคนร้ายที่เข้าไปบุกรุกทำสวนทุเรียนในพื้นที่ดังกล่าว ซึ่ง จนท.ทราบตัวคนร้ายว่าเป็นชาวบ้านที่มีบ้านอยู่ในซอยห้วยส่าน มีอาชีพทำสวนทุเรียนในพื้นที่ป่าที่ได้รับอนุญาตบางส่วนและมีเอกสารสิทธิ์บางส่วน แต่ ยังไม่ยอมหยุดการบุกรุกป่าสงวน ทั้งที่ จนท.ป่าไม้เคยตักเตือนไม่ให้บุกรุกป่า มาหลายครั้ง จนกระทั่งได้รับแจ้งว่า ยังคงมีการบุกรุกป่าสงวนในจุดดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง จึงได้รวบรวมกำลัง จนท.หลายหน่วยงาน เข้าจับกุม แต่ คนร้ายไหวตัวทันหลบออกจากพื้นที่เกิดเหตุ ก่อน จนท.จะเข้าไปถึง จึงได้ ทำการยึดเครื่องมืออุปกรณ์ต่างๆ ที่พบในที่เกิดเหตุ เพื่อดำเนินคดี และจะได้หาหลักฐานเพื่อดำเนินการจักกุมคนร้ายต่อไป ถ้าชาวบ้านพบเห็นการบุกรุกผืนป่าดังกล่าวให้ รีบแจ้งจนท.ทันที ก่อนความเสียหายที่มีต่อธรรมชาติจะรุนแรงกว่านี้
สำหรับพื้นที่ป่าสงวน “ป่าหลังสวน”ผืนนี้เป็นป่าต้นน้ำลำธารที่ถูกบุกรุกมาอย่างต่อเนื่องหลายปี ส่งผลให้แม่น้ำลำคลองในพื้นที่ อ.หลังสวน จ.ชุมพรมีความเสียหายอย่างหนัก ในฤดูแล้ง ขาดน้ำในการอุปโภคบริโภค ทำให้น้ำทะเลหนุนขึ้นมาจนถึงพื้นที่เมืองและสวนเกษตร ส่งผลให้นำในแม่น้ำหลังสวนมีความเค็มจนไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้ อาทิ น้ำประปาของการประปาส่วนภูมิภาคหลังสวน มีความเค็มอยู่นาน2เดือน เมื่อถึงฤดูฝนทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากลงท่วมพื้นที่ต่างๆใน อ.หลังสวน สร้างความเสียหายทุกปี แม่น้ำ ลำคลอง ลำห้วย แทบจะไม่มีน้ำเหลือ เนื่องจากป่าต้นน้ำที่เป็นแหล่งผลิตน้ำถูกทำลายอย่างหนัก ยิ่งราคาทุเรียนหมอนทองมีราคาสูง ป่าสงวนก็จะถูกบุกรุกเพิ่มขึ้นตลอดเวลา