เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



กรมอุทยานฯ นำทีมลุยจับค้างคาวมงกุฎในถ้ำกลางป่า หาเชื้อโควิด​-19 ครั้งแรกในประเทศไทย


14 มิ.ย. 2563, 09:29



กรมอุทยานฯ นำทีมลุยจับค้างคาวมงกุฎในถ้ำกลางป่า หาเชื้อโควิด​-19 ครั้งแรกในประเทศไทย




กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช มีการเผยข้อมูลว่า หลังมาตรการโควิด-19 คลี่คลาย ขณะนี้หลายภาคส่วน ทั้งกรมอุทยานฯ, ศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่, โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ และคณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้ลงพื้นที่จังหวัดจันทบุรี ลุยจับค้างคาวมงกุฎ หาเชื้อโควิด​-19 ด้วยเพราะในประเทศไทยมีค้างคาวชนิดนี้ ถึง 23 สายพันธุ์ แต่ยังไม่เคยมีการค้นหาเชื้อไวรัสจากค้างคาวมงกุฎมาก่อน และนี่คือครั้งแรกในประเทศไทย

โดยเมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2563 ที่ผ่านมา นายสัตวแพทย์ภัทรพล มณีอ่อน หรือ “หมอล็อต” หัวหน้ากลุ่มงานจัดการสุขภาพสัตว์ป่า สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช พร้อมด้วย ดร.สุภาภรณ์ วัชรพฤษาดี จากศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ คนไทยคนแรกที่ค้นพบเชื้อไวรัสโควิด-19 ในไทย อาจารย์ประทีป ด้วงแค คณะวนศาสตร์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาว และกองร้อยทหารพรานนาวิกโยธิน 544 ได้ลุยลงพื้นที่ ที่ถ้ำสะดอ หมู่ 2 ตำบลทับไทร อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี 
 



ร่วมกันตรวจหาค้างคาวภายในถ้ำ โดยวางแผนจับค้างคาวมากกว่า 100 ตัว นำมาเก็บตัวอย่างเลือด น้ำลาย และอุจจาระ ก่อนนำตัวอย่างที่เก็บได้ไปตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 และเชื้อไวรัสที่สำคัญอย่างละเอียดในห้องแล็ปต่อไป

ดร.สุภาภรณ์ เปิดเผยว่า "สาเหตุที่ต้องเริ่มมีการตรวจสอบค้างคาวมงกุฎ เนื่องจากมีรายงานจากประเทศจีนว่า ไวรัสโควิด-19 ที่กำลังแพร่ระบาดในคนมีลักษณะเดียวกันกับไวรัสที่พบในค้างคาวมุงกุฎ ที่สำคัญได้มีการพบค้างคาวชนิดนี้ในไทยด้วย ในเมืองไทยมีค้างคาวมงกุฎถึง 23 สายพันธุ์ จึงจำเป็นต้องค้นหาโรค และไวรัสโควิด-19 ในค้างคาวมงกุฎทุกสายพันธุ์ในเมืองไทย และเป็นครั้งแรกของไทยที่มีการหาเชื้อไวรัสโควิด-19 ในค้างคาวมุงกุฎอย่างเป็นระบบ ทั้งนี้ การวิจัยเรื่องโรคจากค้างคาวที่เมืองไทยทำมาเกือบ 20 ปี ยังไม่เคยมีการตรวจสอบค้างคาวมงกุฎแต่อย่างใด จึงยังไม่มีข้อมูลว่าค้างคาวมงกุฎมีเชื้อไวรัสโควิด-19 หรือไม่ ซึ่งจะต้องหาคำตอบเรื่องนี้ให้ชัดเจนต่อไป"

" แต่ถึงอย่างไรก็ตาม ถ้ามองการพบเชื้อไวรัสโควิด-19 ในค้างคาวมงกุฎแบบเดียวกับที่พบค้างคาวสายพันธุ์นี้ในประเทศจีน เมืองไทยก็มีโอกาสจะพบเชื้อไวรัสนี้ แต่อัตราการติดเชื้อจะมีโอกาสมากหรือน้อย ต้องตรวจสอบกันต่อไป ส่วนเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่จะหมดไปจากเมืองไทย ไวรัสเดียวกันนี้จะกลับเกิดขึ้นในไทยจากค้างคาวมงกุฎหรือไม่อย่างไร ขึ้นอยู่กับพฤติการณ์การกินอาหารของคนไทย หากไม่กินค้างคาวก็ยากจะได้รับเชื้อไวรัสโควิด-19 แต่ที่เป็นห่วงคือคนที่ยังนิยมกินค้างคาวเป็นอาหาร มีโอกาสจะติดเชื้อได้ง่ายอย่างยิ่ง"


ด้านนายสัตวแพทย์ภัทรพล เปิดเผยว่า​ "เป็นที่น่ากังวลที่ยังมีคนนิยมกินค้างคาว เพราะมีความเชื่อผิด ๆ การกิน การจับ มีโอกาสจะได้รับเชื้อไวรัส หรือเชื้อโรคใด ๆ ก็ได้ จึงจำเป็นต้องทำคู่มือว่าด้วยเรื่องการอยู่ร่วมกับค้างคาวอย่างปลอดภัยแจกจ่ายให้ประชาชน ขณะนี้กลุ่มนักวิจัยกำลังศึกษาเส้นทางการอพยพ เส้นทางการหากินของค้างคาว โดยเน้นไปที่ค้างคาวมงกุฎ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัส หรือโรคที่มาจากค้างคาวในอนาคต เป็นการเตรียมความพร้อมในการรับมือกับไวรัส แต่วิธีป้องกันที่ง่ายที่สุด คือการไม่ไปทำลายสิ่งแวดล้อม ไม่ทำลายธรรมชาติ หรือบุกรุกป่า ไม่ล่า ไม่ค้าสัตว์ป่า เชื้อโรคใด ๆ จากสัตว์ป่าก็ไม่สามารถมาสู่คนได้"






Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.