ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า หลังจังหวัดนครพนม คลายล็อกระยะที่ 4 ซึ่งเป็นกิจการ/กิจกรรมความเสี่ยงสูง ประกอบด้วย 3 ประเภท กิจการ/กิจกรรม 1. การผ่อนผันใช้อาคารเรียนที่โรงเรียน สถาบันการศึกษา 2. กิจกรรมด้านเศรษฐกิจ การดำเนินชีวิต และ 3. กิจกรรมด้านการออกกำลังกาย การดูแลสุขภาพ สันทนาการ จึงทำให้แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติหลายแห่ง มีประชาชน นักท่องเที่ยว ให้ความสนใจ เดินทางมาเที่ยวพักผ่อนคลายร้อนกันอย่างคึกคัก เพราะมีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคโควิดน้อย 

เช่นเดียวกันกับพื้นที่อ่างเก็บน้ำหนองหาร บ้านนาเพียง ต.ไชยบุรี อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม มีเนื้อที่กว่า 2,000 ไร่ แหล่งหลบร้อน พักผ่อน หย่อนใจ ที่มีบรรยากาศร่มเย็น โอบล้อมด้วยแม่น้ำ สายลม ทิวเขา นับเป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติเชิงอนุรักษ์สำคัญ ที่มีประชาชน นักท่องเที่ยว ให้ความสนใจมาเที่ยวพักผ่อน หลังวิกฤตโรคโควิดเริ่มคลี่คลาย  ทางองค์การบริหารส่วนตำบลไชยบุรี (อบต.ฯ)  ได้ร่วมกับชุมชนหมู่บ้าน จึงเริ่มจัดกิจกรรมล่องแพ ท่องเที่ยว บริการประชาชน นักท่องเที่ยว มาพักผ่อน เล่นน้ำคลายร้อน ซึ่งมีบริการอาหาร เมนูไทย อีสาน หลากหลายชนิด เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ การท่องเที่ยวในชุมชน 

นอกจากจะเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ยังส่งผลให้ประชาชนในพื้นที่ มีงาน มีรายได้เสริม มีการจ้างงาน ทั้งชาวบ้านในพื้นที่ รวมถึงลูกหลานเยาวชนที่ปิดภาคเรียน  หลังคลายล็อกเฟส 4  จึงได้เปิดดำเนินการให้กับประชาชน นักท่องเที่ยว สามารถกลับมาเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจได้อีกครั้ง ส่งผลให้บรรยากาศกลับมาคึกคักอีกครั้ง โดยมีเจ้าหน้าที่ดูแลทั้งความปลอดภัย อำนวยความสะดวก และคัดกรองทำประวัติก่อนเข้าใช้บริการท่องเที่ยว เพื่อเป็นการเพิ่มมาตรการควบคุมป้องกันโรคโควิด

นายสันติ ไชยมหา นายก อบต.ไชยบุรี เปิดเผยว่า สำหรับกิจกรรมล่องแพหนองหาร ช่วง 2 -3 ปีที่ผ่านมา ได้มีการพัฒนาส่งเสริมการท่องเที่ยว เพราะต้องการพัฒนาแหล่งน้ำจืดหนองหาร จากเดิมเป็นเพียงแหล่งน้ำการเกษตร ให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยว  เริ่มจากการทำแพเล็กๆ เพียงไม่กี่ลำ นำร่องประชาสัมพันธ์เชิญชวน ให้ประชาชน นักท่องเที่ยว ได้มาเที่ยวชม สัมผัสการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ธรรมชาติ ด้วยการล่องแพชมธรรมชาติ เล่นน้ำคลายร้อน รับประทานอาหารอีสานหลากหลายเมนู บนแพกลางน้ำ ทำให้ได้รับความสนใจต่อเนื่อง จึงได้ร่วมกับชุมชน พัฒนาเพิ่มจำนวนแพมาต่อเนื่อง จนมีมาตรฐานในการดูแลประชาชน นักท่องเที่ยว แต่ในช่วงวิกฤติโควิดที่ผ่านมา ต้องงดบริการ ทำให้ขาดรายได้ ไประยะหนึ่ง หลังมีการคลายล็อกเฟส 4 จึงกลับมาเปิดบริการอีกครั้ง แต่ยังต้องมีมาตรการคัดกรองตามหลักสาธารณสุข

ปัจจุบันมีการพัฒนาร่วมกับชุมชนสร้างแพประมาณ 40 ลำ คอยยบริการทุกวัน  มีราคาเช่าเริ่มต้นชั่วโมงแรก 200 บาท ชั่วโมงต่อไป 100 บาท และมีแบบเหมาทั้งวัน ประมาณ 500 -800 บาท แล้วแต่ขนาดแพ ส่วนการบริการ จะมีเรือลากไปจอดกลางหนองหาร บริการอาหาร เครื่องดื่มอยู่บนแพ พร้อมมีคนดูแลกำชับให้ประชาชน นักท่องเที่ยว ที่เล่นน้ำสวมชูชีพ รวมถึงคอยดูแลความปลอดภัยตลอด

นายก อบต.ไชยบุรี กล่าวต่ออีกว่า สิ่งสำคัญนอกจากจะเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่เชื่อมโยงกับนโยบายจังหวัด ให้นครพนมเป็นเมืองท่องเที่ยวสำคัญ ยังเป็นการสร้างงาน สร้างรายได้ในชุมชน เนื่องจากแรงงานทั้งแม่ครัว พนักงานเสิร์ฟ คนขับเรือดูแลแพ รวมกว่า 50 คน ล้วนเป็นคนในพื้นที่ ทำให้มีงาน มีรายได้ รวมถึงลูกหลานเยาวชน ได้มีโอกาสทำงานสร้างรายได้เสริม ยิ่งช่วงวิกฤติโควิดบางคนตกงาน ขาดรายได้ ทำให้มีรายได้เสริมจากการจ้างงานในพื้นที่ 

สำหรับรายได้จะมีการบริการจัดการในกลุ่มที่ร่วมลงทุนในชุมชน  ช่วงแรกยังไม่ได้หวังผลกำไร เพียงต้องการกระตุ้นการท่องเที่ยว และในอนาคตจะวางแผนพัฒนาเพิ่มจำนวนแพมากขึ้น ให้เพียงพอต่อความต้องการของนักท่องเที่ยว รวมถึงปรับปรุงภูมิทัศน์รอบหนองหาร จัดหางบประมาณ ดำเนินการสร้างร้านอาหารริมหนองหาร เพิ่มจากแพกลางน้ำ รวมถึงสร้างที่พัก เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติเชิงอนุรักษ์ครบวงจร สามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้ตลอดปี หากใครที่สนใจติดต่อสอบถามจองแพได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ โทร. 081-964-5847

แหล่งท่องเที่ยวหนองหาร ต.ไชยบุรี เป็นอ่างเก็บน้ำธรรมชาติขนาดใหญ่ มีเนื้อที่กว่า 2,000 ไร่ เดิมเป็นที่ลุ่มที่ประชาชนในอดีต ใช้สัญจรไปมาระหว่างหมู่บ้าน ต่อมาประมาณปี 2517 มีการก่อสร้างถนนทางหลวงแผ่นดินสาย 212 (นครพนม-บ้านแพง) ถึงฤดูน้ำหลากทำให้กระแสน้ำไม่สามารถระบายไหลลงสู่แม่น้ำสงครามได้ จึงทำให้เกิดเป็นหนองน้ำขนาดมหึมาอย่างที่เห็นในปัจจุบันนี้ และกลายเป็นเส้นเลือดสำคัญ ในการหล่อเลี้ยงพี่น้องประชาชนในพื้นที่  เป็นน้ำใสสะอาดสามารถมองเห็นสิ่งที่อยู่ก้นอ่างชัดเจน เพราะเป็นน้ำที่ได้จากฝนตกลงมาล้วนๆ

และบริเวณกลางอ่างเก็บน้ำหนองหารมีเกาะกลางโผล่ขึ้นมา ชาวบ้านเรียกว่าโนนสาวเอ้ เป็นภาษาอีสานแปลว่า สถานที่ที่ชายหนุ่มหญิงสาวหยุดพักแต่งตัวให้สวยงามก่อนจะถึงบริเวณงาน จึงเรียกโนนสาวเอ้ ที่ภาคอีสานมีโนนสาวเอ้อยู่หลายแห่ง ซึ่งก็แสดงว่าตรงนั้นเป็นสถานที่ชายหนุ่มหญิงสาวหยุดพักแต่งตัวนั่นเอง