วันนี้ (16 มิ.ย.63) ผู้สื่อข่าวONB newsรายงานว่า พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผบก.ภ.จ.อุดรธานี พ.ต.อ.อารี สินธุรา ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี พ.ต.ท.พัฒนวงศ์ จันทร์พล รอง ผกก.ป.สภ.เมืองอุดรธานี พ.ต.ต.ชัยรัตน์ ประสารพันธ์ สวป.สภ.เมืองอุดรธานี ควบคุมตัวผู้ต้องหายาเสพติดประกอบด้วยนายอภิสิทธิ์ แซ่ภู อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 147 หมู่ 3 บ้านนาแอง ต.นิคมสงเคราะห์ อ.เมือง จ.อุดรธานี ซึ่งพิการขาซ้ายขาด และนายสุเมธ ช่างปรุง อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 293/18 หมู่ 6 ชุมชนบ้านเดื่อ ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี พร้อมของกลางยาบ้า 10,462 เม็ด ไปชี้จุดเกิดเหตุพักหมายเลข 9 หอพักไม่มีชื่อแห่งหนึ่ง ภายในซอยประชาอุทิศ 4 ถนนอดุลยเดช เขตเทศบาลนครอุดรธานี

พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผบก.ภ.จ.อุดรธานี เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 15 มิถุนายน พ.ต.ต.ชัยรัตน์ ประสารพันธ์ สวป.สภ.เมืองอุดรธานี สืบทราบว่า มีการลักลอบจำหน่ายยาบ้าในเขตเทศบาลนครอุดรธานี จึงวางแผนให้สายลับล่อซื้อ 200 เม็ด ที่ถนนธรรมเจดีย์ ข้างร้านแหนมเนือง เขตเทศบาลนครอุดรธานี พบนายอภิสิทธิ์ ซึ่งพิการขาซ้ายขาดจากอุบัติเหตุ ยืนอยู่รอส่งยาบ้าให้ลูกค้า จึงเข้าตรวจค้นพบยาบ้า 262 เม็ดในกระเป๋าเป้สีดำที่สะพายอยู่ ให้การรับสารภาพว่า เคยเรียนชั้น ปวช.2 วิทยาลัยเทคนิคอุดรธานี แต่เกิดอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนรถบรรทุกพ่วง ทำให้ขาซ้ายขาด เป็นคนพิการและใส่ขาเทียม จึงต้องหยุดเรียน และหันมารับจ้างส่งยาบ้าให้ลูกค้าตามที่นายสุเมธสั่ง เพื่อหารายได้ โดยจะได้ค่าจ้างเป็นเงินและยาบ้า

 

พล.ต.ต.พิษณุ เปิดเผยต่อว่า เวลา 23.00 น. วันเดียวกัน ตำรวจควบคุมตัวนายอภิสิทธิ์ ไปตรวจค้นห้องพักหมายเลข 9 หอพักไม่มีชื่อ ภายในซอยประชาอุทิศ 4 เขตเทศบาลนครอุดรธานี พบนายสุเมธ อยู่ในห้องพัก จากการตรวจค้นพบยาบ้า 10,200 เม็ด อยู่ในกระเป๋าเป้สีเทา ซุกซ่อนอยู่ในตู้เสือผ้าภายในห้องพัก

 

จากการสอบสวนนายสุเมธ ให้การรับสารภาพว่า กำลังเรียนอยู่ชั้น ปวส.2 ช่างไฟฟ้า วิทยาลัยเทคนิคอุดรธานี เคยเสพยาบ้ามาก่อน เมื่อ 6 เดือนก่อนเพื่อนได้แนะนำให้รู้จักกับพ่อค้าชาวลาวทางโทรศัพท์ ชักชวนให้มาขายยาบ้า ซึ่งตนเห็นว่าทางวิทยาลัยยังไม่เปิดเรียนจึงมาขายยาบ้าหารายได้ไว้ใช้จ่ายไปก่อน

 

โดยครั้งแรกชาวลาวนำมายาบ้ามาส่งให้ 10,000 เม็ดในราคา 34,000 บาท แบบนำไปขายก่อนผ่อนเงินภายหลัง ตนจึงมาเช่าหอพักไว้เพื่อพักยาบ้า เมื่อมีลูกค้าสั่งก็จะให้นายอภิสิทธิ์ นำยาบ้าไปส่งลูกค้า โดยจะขายถุงละ 200 เม็ด ราคา 10,000-12,000 บาท ถ้าซื้อ 10 เม็ด ขาย 700 บาท เมื่อขายหมดตนก็จะโอนเงินเข้าบัญชีชาวลาว ส่วนกำไรตนจะมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน กระทั่งมาถูกตำรวจจับกุมดังกล่าว ซึ่งตร.ได้แจ้งข้อหา “ร่วมกันมียาเสพติดประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย” ควบคุมตัวไว้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป