กลายเป็นเรื่องราวที่กำลังได้รับความสนใจถูกแชร์ส่งต่อในโลกสังคมออนไลน์อย่างแพร่หลายเลยทีเดียว ต่อโพสต์จากผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Tun Wisawas ซึ่งได้ออกรีวิวถึงการถูกกักตัว 14 วัน โดยรัฐ (state quarantine) หลังกลับจากการเดินทางไปเรียนที่ประเทศญี่ปุ่น กลับโดยเที่ยวบินพิเศษของสายการบิน ANA เที่ยวบินที่ NH847 เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2563 ที่ผ่านมา ซึ่งถึงแม้เขาจะเป็นคนไทย ซึ่งแปลว่าอิสระ แต่เขาบอกว่า เขาก็ต้องเคารพกฎหมาย และรับผิดชอบต่อสังคม

เริ่มจาก ได้เดินทางมาสนามบินฮาเนดะ ตั้งแต่เช้า ถึงสนามบินก็คือมีแต่ความเงียบเหงา ราวกับเราจะไม่ได้กลับมาญี่ปุ่นอีก ปาดน้ำตานิดนึง แล้วก็ไปรอเข้าแถวรอเช็คอิน วันนี้น่าจะมีเที่ยวบินเดียวคือที่กลับไทยนี่แหละ ที่ญี่ปุ่นก็คือเหมือนจะไม่เคร่ง ไม่โซเชียล ดิสแทนซิ่ง อะไรทั้งสิ้น แต่โอเค อย่างไรก็ได้แล้วตอนนี้ ขอให้ได้กลับบ้าน แต่เขาบังคับว่า ทุกคนต้องใส่หน้ากากอนามัยตลอดการเดินทาง

ผ่านทุกอย่างตามปกติก็มารอขึ้นเครื่อง เที่ยวบินนี้เป็นเที่ยวบินพิเศษที่สถานทูตจัดให้ เดือนนี้มีแค่ 3 เที่ยวบิน เที่ยวนี้เป็นเที่ยวที่ 2 อีกเที่ยวคือปลายเดือนเลย เราต้องกลับเที่ยวนี้แหละ เพราะอีก 10 วันวีซ่าจะหมดแล้ว

เล่าขั้นตอนนิดนึงว่า ไม่ใช่มีเงินซื้อตั๋วแล้วกลับได้เลย คือเราต้องไปลงทะเบียนกับสถานทูต รออีเมล์ตอบกลับ จากนั้นไปซื้อตั๋วของเดือนหน้า ส่งไปให้สถานทูตเปลี่ยนแปลงเที่ยวบิน เซ็นเอกสารยินยอมกักตัว สรุปเลยว่าถ้าจะกลับไปต้องมีเอกสารหลายอย่าง ต้องมีใบรับรองแพทย์ที่ญี่ปุ่น ก็คือเสียเงินทุกขั้นตอน แต่เราไม่หวั่น เพราะตอนนี้ Bangkok is calling หนูอยากกลับบ้าน

พอลงจากเครื่องก็เตรียมเอกสารทุกอย่างให้พร้อมเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ นั่งเรียงกันเป็นแถว เจ้าหน้าที่ตรวจเอกสารคือป้องกันกันดีมาก ยืนกันหลายสิบคน คุมกันละเอียดยิบ ตั้งแต่ลงเครื่อง ยืนคุมตลอดแนว แบบไม่ให้เล็ดลอดสายตา

สวมชุดป้องกัน กันเต็มที่ ล้างมือ เช็ดมือ เช็ดแอลกอฮอล์กันตลอด อย่าว่าแต่เชื้อโรคเลยที่จะเข้ามาได้ อากาศก็ไม่น่าเข้าได้ด้วย นับถือในความอดทนคือถ้าเราเป็นเชื้อโรคที่มาจากต่างประเทศแล้วหวังว่าจะเอามาแพร่กระจายติดคนไทย ก็คงต้องมีท้อแท้ อะไรมันจะคุมเข้มขนาดนี้ อันนี้ขอชื่นชมเจ้าหน้าที่และรัฐที่จัดการเป็นอย่างดี

คือนี่ถ้าเป็นเชื้อโควิดคงขอนั่งเครื่องกลับไปหากินที่ญี่ปุ่นต่อดีกว่า อยู่ไทยไม่น่ารอด