พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา กล่าวต่อว่า ในส่วนของสถานการณ์ฝนตกหนัก น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก มอบหมายให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน ระดับน้ำ พร้อมวิเคราะห์ปัจจัยเสี่ยงและแนวโน้มสถานการณ์ภัยต่อเนื่อง ตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงเตรียมชุดเผชิญสถานการณ์วิกฤต (ERT) รถปฏิบัติการ และเครื่องจักรกลสาธารณภัยให้พร้อมเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยทันที โดยในพื้นที่เขตเมือง ได้สั่งการไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดสั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งฝ่ายปกครอง สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่เตรียมการลอกท่อระบายน้ำ ที่พร่องน้ำ หากเกิดสถานการณ์ต้องสามารถระบายน้ำได้ทันท่วงที เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบเกิดน้ำท่วมขังบ้านเรือนประชาชนและเส้นทางจราจร นอกจากนี้ ในพื้นที่เขา หากเกิดฝนตกหนักติดต่อกันเป็นเวลานาน ต้องแจ้งเตือน ติดตาม และประเมินสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง และให้อพยพคนออกโดยทันทีก่อนที่จะเกิดภัย สำหรับในพื้นที่จังหวัดชายฝั่งทะเล ต้องประกาศสั่งห้ามเรือเล็กออกจากฝั่ง พร้อมประสานกองทัพเรือภาคเร่งให้ความช่วยเหลือเรือประมงที่ออกเดินเรือไปก่อนประกาศ เพื่อความปลอดภัยของประชาชนทุกคน

พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา ได้เน้นย้ำให้ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ และผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เร่งให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบทั้งสถานการณ์ภัยแล้งและน้ำท่วมฉับพลันโดยเร่งด่วน ทั้งนี้ หากพี่น้องประชาชน ที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัย สามารถติดต่อสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง