สุดโหด คนร้ายบุกบ้านทำร้าย-ใช้มีดฟัน 2 สามีภรรยาสาหัส เด็กชาย 6 ปีก็ไม่เว้น
18 มิ.ย. 2563, 14:31
วันที่ 18 มิ.ย.63 เวลา 10.40 น. ร.ต.อ. จรูญ ตรงกลาง รองสารวัตรสืบสวนสอบสวน พร้อมด้วย พ.ต.ท.นพรัตน์ ปัวน้อย สารวัตรปราบปราม สถานีตำรวจภูธรเขาบางแกรก ร.ต.อ.วีระ พะวา ร้อยเวร สถานีตำรวจภูธรเขาบางแกรก พร้อมด้วย ทีมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสอบสวน สถานีตำรวจภูธรเขาบางแกรก อำเภอหนองฉาง จังหวัดอุทัยธานี และกองพิสูจน์หลักฐานสถานีตำรวจภูธรเมืองอุทัยธานี ร่วมกันลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ หลังเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 18.30 น.ได้รับแจ้งเหตุ มีผู้ถูกฟันได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยไม่ทราบสาเหตุ จำนวน 3 ราย ภายในบ้านเลขที่ 3 หมู่ที่ 9 ตำบลทุ่งโพ อำเภอหนองฉาง จังหวัดอุทัยธานี เป็นบ้าน 2 ชั้น ครึ่งไม้ครึ่งปูน มีผู้อาศัยอยู่ภายในบ้านด้วยกัน 3 คนคือ นายบุญช่วย สวัสดีอายุ 55 ปี นางสาวนพวรรณ เนตรสุพรรณ์ อายุ 51 ปี และเด็กชายปิยังกูล สวัสดี อายุ 6 ปี โดยทั้ง 2 คนเป็นสามีภรรยากัน ส่วนเด็กชายอายุ 6 ปีนั้นเป็นหลาน ประกอบอาชีพทำเครื่องเสียง ทศพล ซาวนด์ พร้อมทั้ง ประกอบอาชีพทำไร่อ้อย และปลูกผักขายที่ตลาด โดยทั้ง 3 รายนั้นถูกฟันด้วยอาวุธมีดซึ่ง ยังไม่ทราบว่าเป็นมีดประเภทใด
โดยจุดเกิดเหตุอยู่ที่บริเวณชั้น 1 ของบ้าน ซึ่งคาดว่าขณะเกิดเหตุนั้นทั้ง 3 ราย กำลังนั่งดูทีวีอยู่โดยคาดว่าเวลาเกิดเหตุน่าจะอยู่ในช่วงเวลาประมาณ 18.00 น. ของวานนี้ โดยที่เกิดเหตุพบกองเลือดจำนวนมากอยู่ภายในบ้านด้วยกัน 3 จุด จากการตรวจสอบโดยรอบบ้านที่เกิดเหตุพบมีดทำครัวจำนวน 3 เล่ม และมีดจากผู้ต้องสงสัยอีกจำนวน 1 เล่ม รวมเป็น 4 เล่ม โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำการบันทึกภาพก่อนเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน ก่อนเข้าตรวจสอบบ้านพักของผู้ต้องสงสัย ซึ่งเป็นหลานชาย อายุประมาณ 30 ปี และเป็นผู้ป่วยจิตเวช ที่อาศัยอยู่ภายในบ้านพัก ฝั่งตรงข้ามบ้านผู้บาดเจ็บเพียงลำพัง เนื่องจากผู้เป็นแม่ของชายรายนี้ นอนพักรักษาตัวด้วยโรคประจำตัวกำเริบอยู่ที่โรงพยาบาลหนองฉาง นานกว่า 2 สัปดาห์แล้ว
โดยอาการล่าสุดนั้น นายบุญช่วยฯ ยังคงอยู่ในอาการโคม่า และต้องเข้ารับการผ่าตัดสมองอีก 1 ครั้ง ส่วนนางสาวนพวรรณฯ และเด็กชายวัย 6 ปีนั้น ขณะนี้ออกจากห้อง ICU แล้วแต่ยังคงมีอาการน่าเป็นห่วงเพราะยังต้องใช้เครื่องช่วยหายใจอยู่ ท่ามกลางบรรดาญาติพี่น้องและผู้ที่รู้จักครอบครัวดังกล่าวต่างพากันมายืนมุงดูยังบ้านที่เกิดเหตุเป็นจำนวนมาก พร้อมทั้งยังกล่าวว่า เป็นเหตุการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด และหวาดผวากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะไม่ทราบว่าใครเป็นผู้ก่อเหตุซ้ำ ผู้บาดเจ็บนั้นก็ไม่เคยมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งหรือบาดหมางกับใคร ประกอบกับผู้บาดเจ็บนั้นเป็นคนอัธยาศัยดีมีแต่คนรักใคร่ อีกด้วย
โดยจากการสอบถาม นายนิวัฒน์ เครือแดง อายุ 56 ปี ซึ่งเป็นผู้พบนางนพวรรณฯ ผู้บาดเจ็บเป็นคนแรก ที่บริเวณริมถนนข้างกอไผ่ห่างจากบ้านที่เกิดเหตุประมาณ 70 เมตร และเป็นผู้ไปตามเพื่อนบ้านที่อาศัยอยู่ในบ้านใกล้เคียงให้มาช่วย ก่อนประสานเจ้าหน้าที่กู้ภัยนำตัวผู้บาดเจ็บทั้ง 3 ราย ส่งรักษาตัวที่โรงพยาบาลหนองฉาง ก่อนถูกส่งตัวเข้าไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลอุทัยธานี เล่าให้ฟังว่า ในวันเกิดเหตุเมื่อช่วงเวลาประมาณ 17.00 น. ตนเองนั้นได้ขับรถจักรยานยนต์ผ่านบ้านผู้บาดเจ็บเพื่อไปรับภรรยา ที่ทำงานอยู่ที่ร้านคาร์แคร์ ในเขตพื้นที่อำเภอหนองฉาง โดยตอนนั้นเหตุการณ์ก็ยังปกติดี จนตอนที่ตนนั้นขับรถกลับมาพร้อมกับภรรยา ซึ่งน่าจะเป็นช่วงเวลาประมาณ 18.00 น. เมื่อถึงตรงจุดที่พบนางสาวนพวรรณฯ ผู้บาดเจ็บได้ร้องเรียกให้ตนเองนั้นช่วย โดยตนเองนั้นก็อยู่ในอาการตกใจ จึงรีบไปตามเพื่อนบ้านที่อยู่หลังถัดไปให้มาช่วย เพราะบ้านฝั่งตรงข้าม 2 หลัง ซึ่งเป็นบ้านของหลานผู้บาดเจ็บนั้นในวันเกิดเหตุไม่มีใครอยู่ ก่อนประสานนำตัวทั้ง 3 รายนั้นส่งโรงพยาบาล ซึ่งก็ไม่ทราบว่าใครเป็นผู้ก่อเหตุและเหตุเกิดขึ้นได้อย่างไร
ด้านนางเกษมณี เนตรสุพรรณ อายุ 64 ปี ซึ่งเป็นพี่สาวของ นางสาวนพวรรณฯ ผู้บาดเจ็บ ได้เล่าให้ฟัง อีกด้วยว่า ครอบครัวของน้องสาวไม่เคยมีเรื่อง บัตรมากับใคร จึงทำให้ไม่รู้ว่าใครเป็นผู้ลงมือก่อเหตุและทำไปด้วยสาเหตุเหตุใด ส่วนหลานชาย ที่เป็นผู้ป่วยจิตเวชนั้น โดยในช่วงก่อนเกิดเหตุ ก็ได้ไปอยู่กับตนเองที่บ้าน โดยก่อนกลับ ยังได้ขอเงินตนเองนั้นมาจำนวน 30 บาทโดยกล่าวว่าจะนำมาซื้อกับข้าวกิน ซึ่งก็ไม่รู้ว่าตอนที่หลานชายกลับมาที่บ้านพักนั้น ได้เกิดเหตุแล้วหรือไม่อีกด้วย
โดย ทศพล สวัสดี อายุ 26 ปี ผู้เป็นลูกชายของผู้บาดเจ็บ เล่าว่า ตนเองนั้น ทำงานอยู่ที่ กรุงเทพฯ โดยเมื่อเวลาประมาณ 19.00 น.ได้มีญาติโทรมาแจ้งว่าเกิดเหตุดังกล่าวขึ้นกับครอบครัวของตน จึงรีบเดินทางกลับมาทันที ซึ่งยอมรับว่าตกใจมาก ไม่เคยคิดว่าเหตุการณ์แบบนี้จะเกิดขึ้นกับครอบครัวของตัวเอง เพราะพ่อแม่นั้นไม่เคยมีปัญหาทะเลาะเบาะแว้งกับใคร จะมีก็เพียงแค่กับหลานชายที่เป็นผู้ป่วยจิตเวชเท่านั้น แต่มันก็เป็นเหตุที่ ผ่านหลายปีมาแล้ว โดยตอนนั้นหลานชายที่เป็นผู้ป่วยจิตเวช ขาดยาแล้วเข้ามาจุดประทัดภายในบ้านของตนเอง จนนายบุญช่วยฯ ผู้เป็นพ่อได้ออกมาตะโกนไล่ว่า มาจุดทำไมเสียงดังรำคาญ โดยตอนนั้นหลานชายที่เป็นผู้ป่วยจิตเวช รายนี้ ก็ได้ถือมีดเหรียญที่ไว้ใช้ฟันหญ้าตรงจะเข้ามาทำร้ายพ่อ แต่เหตุการณ์ก็เกิดขึ้นมานานมากแล้ว และช่วงนั้นมานี้เวลาที่ตนเองกลับมาหาพ่อกับแม่ที่บ้าน หลานชายที่เป็นผู้ป่วยจิตเวช ก็ดูมีอาการปกติดี ซึ่งก็ไม่อยากจะชี้ชัดเลยว่าเป็นเขาที่ลงมือก่อเหตุแบบนี้ แต่นอกจากนี้แล้วครอบครัวก็ไม่เคยมีปัญหากับใครเลย โดยจะรอให้ผู้เป็นแม่ฟื้นขึ้นมาเล่าเหตุการณ์ที่แท้จริงทั้งหมดให้ฟัง อีกครั้ง นายทศพล กล่าว