"รร.พระปริยัติธรรม" วัดสุวรรณมงคล ช่วยสร้างโอกาสให้ เด็ก-เยาวชน ในการศึกษาเล่าเรียน แก้ปัญหาสังคม
18 มิ.ย. 2563, 14:37
ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ปัญหาของสังคมนับวันยิ่งรุนแรงขึ้นทุกวัน โดยเฉพาะสถาบันหลักเช่น ครอบครัว ที่พ่อ-แม่ เลิกรา หย่าร้าง ทำให้เด็กและเยาวชน ขาดความอบอุ่น ไร้ที่พึ่งพิง และหลงเดินทำผิด ทำให้เป็นปัญหาของสังคมไทยในทุกวันนี้ ทำให้ ดร.พระครูมงคลปัญญากร ปญญาวุฑโฒ เจ้าคณะอำเภอเมืองตราด เจ้าอาวาสวัดสุวรรณมงคล ได้เล็งเห็นถึงปัญหาทางสังคม เด็ก และเยาวชนที่อนาคตต้องเติบโตเป็นกำลังของชาติ ที่ขาดโอกาสในการศึกษาเล่าเรียน จึงได้จัดสร้างวัดปริยัตธรรมวัดสุวรรณมงคล โดยมอบหมายให้ ดร.พระมหาอิศเรศ ญิตจิต.โต ผู้อำนวยการโรงเรียนพระปริยัติธรรม โรงเรียนวัดสุวรรณมงคล และรองเจ้าอาวาสวัดสุวรรณมงคล ต.หนองเสม็ด อ.เมือง จ.ตราด เป็นผู้ควบคุมดูแล สามเณร เข้ามาบวชเรียนซึ่งมีทั้งจังหวัดตราด และต่างจังหวัด ที่ต่างมีจุดมุ่งหมายเดียวกัน คือเรียนหนังสือ นำความรู้ไปประกอบอาชีพในอนาคต
ดร.พระมหาอิศเรศ บอกว่าสามเณรที่เข้ามาบวชทุกคนก็จะให้บวชเรียนทั้งทางธรรม และทางโลกตามหลักสูตรของกระทรวงศึกษาธิการ เหมือนการเรียนในโรงเรียนปกติทุกประการ เพียงแต่มีตารางเรียนธรรมะ ภาษาบาลีในช่วงเช้า และเรียนหลักสูตรกระทรวงศึกษาธิการในช่วงบ่าย ซึ่งทางวัดจะส่งเรียนจนจบปริญญาตรี ปริญญาโท หรือปริญญาเอก แล้วแต่ความสามารถของแต่ละคน
ดร.พระมหาอิศเรศ ยังบอกอีกว่า ปัจจุบันโรงเรียนพระปริยัติธรรมวัดสุวรรณมงคล มีนักเรียนทั้งหมดจำนวน 60 รูป มีครูอัตราจ้าง ครูจิตอาสา และครูจากนักเรียนธรรมรุ่นพี่ มาช่วยในการจัดการเรียนการสอน โดยเสียค่าใช้จ่ายในโรงเรียนเดือนละเกือบ 3 แสนบาท เป็นค่าอาหาร ค่าวัสดุอุปกรณ์ ค่าตอบแทนครูสอน โดยญาติโยม และพระภิกษุสงฆ์รับกิจนิมนต์จะบริจาคจัตุปัจจัยที่ได้มาให้กับโรงเรียนพระปริยัติธรรมทั้งหมด ปัจจุบันโรงเรียนพระปริยัติธรรมวัดสุวรรณมงคล มีนักเรียนที่จบการศึกษาทั้งปริญญาตรี ปริญญาโท และกำลังจะไปศึกษาต่อระดับปริญญาเอกที่ประเทศอเมริกาในเร็วๆ นี้อีกด้วย ส่วนนักเรียนที่มาเรียนในโรงเรียนพระปริยัติธรรมทั้งหมด เป็นผู้ด้อยโอกาส ผู้มีปัญหาทางครอบครัว ไม่มีทางไป ทางวัดจึงรับไว้อุปการะส่งเรียน หลายรูป จบการศึกษากลับไปประกอบอาชีพที่บ้านเกิดก็มี
ด้านสามเณร สิทธิชัย มนตรีพงษ์ อายุ 18 ปี กำลังศึกษาระดับมัธยมตอนปลาย เปิดเผยว่า ครอบครัวอยู่จังหวัดร้อยเอ็ดหลังจากที่พ่อแม่แยกทางกัน ก็ได้มาบวชเป็นสามเณรที่วัดแห่งนี้ และได้ศึกษาเล่าเรียน ตั้งใจกับเป้าหมายของชีวิตไว้ว่า หากจบ ม.6 แล้วจะไปเรียนต่อที่ มจร.วังน้อย จังหวัดอยุธยา และจะศึกษาไปเรื่อยๆ อยากเป็นครู กลับมาสอนสามเณรที่โรงเรียนแห่งนี้ ส่วนจะสึกหรือไม่นั้นเป็นเรื่องของอนาคต และขอขอบคุณโรงเรียนแห่งนี้ที่ให้อนาคต หวังว่าหากสำเร็จการศึกษาตามที่วางเป้าหมายของชีวิตไว้จะกลับมาตอบแทนบุญคุณด้วยการกลับมาสอนให้ความรู้กับสามเณรต่อไป