เมื่อเวลา 19.50 น วันที่ 10 ก.ค. 62 ที่เมรุชั่วคราวสำนักปฏิบัติธรรมประเสริฐเกิดทรัพย์ บ้านโพนทอง ต.หนองพันทา อ.โซ่พิสัย จ.บึงกาฬ ซึ่งเป็นสถานที่จัดพิธีฌาปนกิจศพพระสมจิต ขันติธโร หรือหลวงพ่อแต อายุ 53 ปี 27 พรรษา ซึ่งถูกคนร้ายบุกเข้าไปในวัดแล้วทุบกระจกบานหน้าต่างใช้ผ้าชุบน้ำมันโยนเข้าไปในห้องนอน ทำให้ถูกไฟคลอกมรณภาพเมื่อกลางดึกคืนวันที่ 6 ก.ค.ผ่านมานั้น ในเวลาดังกล่าวได้มีญาติโยมและญาติพี่น้องของพระสมจิตผู้ตายได้มาร่วมไว้อาลัยส่งดวงวิญญาณเป็นครั้งสุดท้าย หลังจากนำศพกลับมาจากแผนกนิติเวชโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยขอนแก่น ผลการผ่าพิสูจน์หมอระบุว่าเสียชีวิตจากการสำลักควันไฟ ไม่ได้เสียชีวิตจากสาเหตุอื่นใดหรือมีบาดแผลตามร่างกายแต่อย่างใด ญาติพี่น้องหรือญาติโยมได้เก็บศพไว้ตั้งบำเพ็ญกุศลภายในสำนักสงฆ์  3 คืนและคืนวันนี้เป็นคืนวันสุดท้าย จึงได้ประกอบฌาปนกิจ ณ เมรุชั่วคราวท่ามกลางสายฝนโปรยมาเป็นระยะ แต่ก็ไม่ได้ตกหนักหยุดๆ ตกๆ ทำให้อากาศเย็นสบายดี เมื่อถึงเวลาพิธีกรได้เชิญแขกผู้มีเกียรติ ญาติโยมขึ้นวางผ้าไตร โดยมีพระเดชพระคุณท่านหลวงพ่อบุญมา ปภัสสโร พระสหายเก่าของพระสมจิตผู้วายชนม์มาเป็นประธานฝ่ายสงฆ์และมีนายวัฒนศักดิ์ แสนสุข ปลัดอาวุโส อำเภอโซ่พิสัย ปลัดสุรัตน์ กานบรรจง และนายสมเดช สิงห์ด้วย กำนัน ต.หนองพันทา ร่วมเป็นประธานฝ่ายฆราวาส โดยพิธีทำกันแบบเรียบง่ายไม่มีพิธีรีตองอะไรมาก ท่ามกลางญาติโยมญาติพี่น้องคนสำคัญคือ นางดอกไม้ โพธิรัตน์ อายุ 70 ปีมารดาพระสมจิตผู้ตาย พระสมศักดิ์ เกิดทรัพย์ และนายบุญมี เกิดทรัพย์ น้องชายคนกลางและคนเล็ก และญาติๆ ที่มาจาก สปป.ลาว ด้วยมาร่วมไว้อาลัยเป็นครั้งสุดท้ายท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจกว่า 500 คน

นางดอกไม้ ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่ารู้สึกเสียใจที่พระลูกชายได้มาด่วนจากไปด้วยวัยอันควรซึ่งปกติ เป็นคนที่มีนิสัยใจคอพูดตรงไปตรงมาพูดจาโผงผางจริงใจ อาจจะพูดไม่เพราะ ไม่ถูกหูคนอื่นซึ่งเป็นอย่างนี้มาแต่เกิดหากคนรู้ใจเข้าใจก็จะไม่มีปัญหา จึงอยากจะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมคนร้ายที่กระทำการโหดเหี้ยมกับพระซึ่งไม่มีโอกาสต่อสู้ให้ได้โดยเร็ว

ส่วนพระสมศักดิ์ ซึ่งเป็นน้องชายต่างมารดาได้กล่าวว่า หลังจาก เผาพี่ชายเสร็จพรุ่งนี้ก็จะเดินทางกลับไปทำกิจวัตรของตน ส่วนทรัพย์สินที่มีอยู่ไม่ว่าจะเป็นเงินทองหรืออย่างอื่น ญาติพี่น้องทุกคนได้แสดงความจำนงกับหลวงพ่อเจ้าคณะอำเภอโซ่พิสัยว่า จะมอบให้ท่านดูแลทั้งสำนักสงฆ์และทรัพย์สินเงินทอง ไม่ทราบว่าเป็นจำนวนเท่าไรแต่ทราบว่ามีบัญชีเงินฝากอยู่หลายบัญชี ขอยกให้เป็นของสงฆ์ทั้งหมด หรือแล้วแต่ญาติโยมที่ดูแลหลวงลุงและสำนักปฏิบัติธรรมแห่งนี้ร่วมกันตัดสินใจกันเอง โดยญาติๆ ไม่ของยุ่งเกี่ยว