ปิดคดีภายใน 36 ชม. “ดึ๋ง คมแฝก” ก่อเหตุทำร้ายคนในครอบครัวสาหัส เพื่อระบายความแค้นฝังใจ
19 มิ.ย. 2563, 18:24
วันที่ 19 มิ.ย.63 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ที่ สถานีตำรวจภูธรเขาบางแกรก อำเภอหนองฉาง จังหวัดอุทัยธานี พ.ต.อ.โชคอนันต์ สายจันยนต์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรอุทัยธานี ร่วมกับ ร.ต.อ.จรูญ ตรงกลาง รองสารวัตรสืบสวนสอบสวน และทีมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสถานีตำรวจภูธรเขาบางแกรก ประชุมหารือเพื่อเตรียมสรุปคดี คนร้ายบุกใช้อาวุธที่คาดว่าเป็นมีด ทำร้าย 2 สามีภรรยา และเด็กชายอายุ 6 ปี ที่ป่วยเป็นออทิสติก จนได้รับบาดเจ็บสาหัส ภายในบ้านพักเลขที่ 3 ในพื้นที่หมู่ 9 ตำบลทุ่งโพ อำเภอหนองฉาง จังหวัดอุทัยธานี จนกลายเป็นคดีสะเทือนขวัญ ที่สร้างความหวาดกลัวให้กับชาวบ้านในพื้นที่เป็นอย่างมาก โดยเหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 18.30 น. ของวันที่ 17 มิถุนายน ที่ผ่านมา
หลังจากที่เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (19 มิ.ย.63) เวลาประมาณ 10.15 น. ร.ต.อ.จรูญ ตรงกลาง รองสารวัตรสืบสวนสอบสวน และชุดสืบสวนได้ลงไปทำการตรวจสอบเพื่อหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมที่บ้านเกิดเหตุโดยละเอียดอีกครั้ง จากนั้นเวลาประมาณ 12.15 น. ได้รับแจ้งจาก ร.ต.อ.วีระ พะวา รอง สว. (สอบสวน) พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีว่า นางสาวนพวรรณ ผู้บาดเจ็บได้บอกชื่อคนร้าย ขณะที่เจ้าหน้าที่เข้าไปเยี่ยมดูอาการ และเก็บดีเอ็นเอที่ร่างกายว่า นายชินดนัย หรือดึ๋ง มะลิสา อายุ 34 ปี หลานชายที่ป่วยเป็นจิตเวช อาศัยอยู่บ้านตรงข้ามกัน เป็นคนร้ายที่ก่อเหตุทำร้ายตนและครอบครัว
ชุดสืบสวนจึงได้ร่วมกันเดินทางไปที่บ้านของ นางเกษมณี หรือ สังวาลย์ เนตรสุพรรณ์ ซึ่งเป็นพี่สาวของ นางสาวนพวรรณ ผู้บาดเจ็บ และเป็นป้าที่ นายดนัย หรือ ดึ๋ง ไว้ใจมากที่สุด โดยบ้านตั้งอยู่เลียบคลองชลประทาน ห่างจากบ้านเกิดเหตุประมาณ 700 เมตร พบ นายชินดนัยหรือดึ๋ง และ นางเกษมณีหรือสังวาลย์ นอนหลับอยู่ที่บ้าน เจ้าหน้าที่จึงได้เรียกให้ทั้ง 2 คนตื่น พร้อมเชิญตัวบุคคลทั้ง 2 คน มาที่สถานีตำรวจภูธรเขาบางแกรก เพื่อทำการสืบสวนสอบสวน โดยทีมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสอบสวน สถานีตำรวจภูธรเขาบางแกรก และทีมสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดอุทัยธานี อย่างละเอียดอีกครั้ง โดยใช้เวลาพูดคุยกับทั้ง 2 คน นานกว่า 3 ชั่วโมงเศษ กระทั่ง นายดนัยหรือดึ๋ง ยอมให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุดังกล่าวจริง
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้ควบคุมตัว นายดนัย หรือ ดึ๋ง เข้าทำแผน ประกอบคำรับสารภาพ และชี้จุดที่ทิ้งอาวุธของกลางที่ใช้ในการก่อเหตุ โดยพบว่าอาวุธที่ใช้ในการก่อเหตุในครั้งนี้นั้นไม่ใช้อาวุธมีดอย่างที่คาดคิดไว้ แต่เป็นไม้คมแฝก ที่มีความยาวประมาณ 1 ศอก โดยนายดนัย หรือ ดึ๋ง ได้เล่าเรื่องราวพร้อมนำเจ้าหน้าที่ตำรวจ จำลองเหตุการณ์ในช่วงเวลาที่ก่อเหตุว่า ช่วงเย็นวันเกิดเหตุนั้น ตนเองได้เดินทางเข้าไปภายในบ้านของผู้บาดเจ็บ โดยเดินเข้าไปทางประตูทางเข้าหน้าบ้านตามปกติ โดยที่ประตูเข้าภายในบ้านนั้น เปิดอยู่ พร้อมกับถืออาวุธที่ใช้ก่อเหตุซื้อไม้คมแฝก ที่ซื้อมาจากชาวบ้านในหมู่บ้านเดียวกันในราคา 100 บาท
โดยเมื่อเดินเข้าไปภายในตัวบ้านชั้นแรก ก็พบกับนายบุญช่วย ซึ่งกำลังนั่งดูทีวีอยู่กับหลานชายอายุ 6 ปี โดยตนเองนั้นได้ใช้ไม้คมแฝกฟาดเข้าไปที่ศีรษะของ นายบุญช่วย ที่นั่งอยู่บนโต๊ะภายในบ้าน 1 ครั้ง จากนั้น นายบุญช่วย ได้เข้าไปอุ้มหลานซึ่งนั่งอยู่ใกล้กัน โดยตนเองนั้นได้ใช้ไม้ฟาดเข้าไปที่นายบุญช่วยซ้ำอีก แต่พลาดโดนเด็กชายอายุ 6 ปี หลังจากนั้น นางสาวนพวรรณ ผู้เป็นป้า ซึ่งอาบน้ำเสร็จแล้วเดินออกมาจากห้องน้ำ และเห็นเหตุการณ์พอดี ตนเองจึงเดินเข้าไปหา นางสาวนพวรรณ และใช้ไม้คมแฝก กระแทกเข้าที่ท้องของ นางสาวนพวรรณ จากนั้น นางสาวนพวรรณ ได้วิ่งหนีตนเองออกมาจากทางประตูครัว ทะลุออกมาที่บริเวณหน้าบ้านเพื่อวิ่งหนีตน จนกระทั่งมาถึงจุดถนนที่มีชาวบ้านพบตัวนางสาวนพวรรณ ตรงจุดนั้น นางสาวนพวรรณได้พยายามแย่งไม้คมแฝกที่มือของตนเอง โดยตนเองนั้นได้กัดเข้าไปที่บริเวณแขนของนางสาวนพวรรณ 2 ครั้ง
จากนั้นตนเองก็ใช้ไม้คมแฝกฟาดเข้าไปที่ศีรษะของนางนพวรรณ ด้วยกัน 2 ครั้ง จนนางสาวนพวรรณ ผู้เป็นป้าล้มลงกับพื้น หลังจากนั้นตนเองจึงเดินถือไม้คมแฝกกลับไปที่บ้าน เพื่อโยนไม้คมแฝกดังกล่าวทิ้งเข้าไปในพงหญ้าหลังบ้าน ที่อยู่ติดกับห้องน้ำ ก่อนมาทำการซักเสื้อผ้าและอาบน้ำชำระล้างร่างกาย แล้วจากนั้นจึงมานั่งสูบบุหรี่อยู่ที่บริเวณหน้าบ้านของตัวเอง และใช้ชีวิตตามปกติ
สุดท้าย นายดนัย ยังได้เล่าถึงสาเหตุที่ได้กระทำในครั้งนี้ทั้งน้ำตาว่า มันเป็นเรื่องที่ตนเองนั้นเก็บกดสะสมมาเป็นระยะเวลายาวนานตั้งแต่สมัยที่ตนเองนั้นยังเป็นเด็ก เนื่องจากตนเองนั้นถูก 2 สามีภรรยานี้ กระทำมายาวนานในหลายๆ เรื่อง โดยบางครั้งตนเองได้เดินเข้าไปขอข้าวกิน ก็มักจะถูก 2 สามีภรรยานี้ต่อว่า หรือแม้กระทั่งน้ำที่ใช้ดื่มกิน ที่แม่ของตนเองนั้นซื้อใส่ตุ่มเอาไว้ เวลาที่ตนเองจะเข้าไปเอาน้ำที่แม่ตัวเองนั้นซื้อมาดื่มกินก็ยังถูกว่าถูกด่าอยู่เป็นประจำ จนกลายเป็นความคับแค้นอยู่ภายในใจเรื่อยมา จนสุดท้ายก็ได้ตัดสินใจลงมือกระทำเหตุดังกล่าว พร้อมยังกล่าวทิ้งท้ายไว้อีกด้วยว่า ตอนนี้รู้สึกโล่งใจ สบายใจขึ้น และไม่มีทางอโหสิกรรม ให้กับทั้ง 2 สามีภรรยานี้อย่างเด็ดขาด นายดนัย กล่าว
ด้าน นางเกษมณี หรือ สังวาลย์ ผู้เป็นป้าที่ นายดนัย รักและไว้ใจมากที่สุด ก็ได้เล่าด้วยน้ำเสียงสั่นเครือน้ำตาคลอ ถึงเรื่องราวที่คาดว่าน่าจะเป็นสาเหตุที่ทำให้นายดนัย นั้น ก่อเหตุในครั้งนี้ว่า เป็นเรื่องที่เก็บกดมานาน ระหว่าง 2 สามีภรรยานี้ เนื่องจากตั้งแต่ นายดนัย เล็กๆ นั้น แม่ของ นายดนัย ไม่ได้อยู่ดูแลเพราะไปทำงานหาเงิน ทำให้การกินอยู่ของนายดนัย อยู่กับ 2 สามีภรรยา โดยอ้างว่า ลูกของ 2 สามีภรรยานั้นจะได้กินอิ่ม แต่นายดนัยนั้นจะได้กินของเหลือจากเขาตลอด จึงทำให้ นายดนัย เก็บกดเสมอมา ขนาดตอนที่นายดนัย เรียนชั้นมัธยมศึกษา ลูกของ 2 สามีภรรยานั้น ได้เงินไปโรงเรียนวันละ 20 บาท แต่นายดนัย ได้เงินไปแค่วันละ 15 บาท ทั้งที่เป็นเงินที่แม่ของ นายดนัย ส่งมาให้ นางเกษมณี กล่าว
โดยคดีนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สามารถปิดคดีได้ภายในเวลา 36 ชั่วโมง หรือ 1 ครึ่ง ส่วนการดำเนินคดีนั้น เบื้องต้น นายดนัย ต้องถูกตั้งข้อกล่าวหาในคดี พยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ส่วนข้อหาอื่นๆ นั้น ยังคงต้องรอการดำเนินรวบรวมพยานหลักฐานของเจ้าหน้าที่อีกครั้ง