ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า นางปาริชาติ มากวิรัตน์ อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 29/1 หมู่ 8 ตำบลบางหมาก อำเภอเมือง จังหวัดชุมพร เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ตนเองเป็นพนักงานของสหกรณ์แห่งหนึ่ง และมีความคิดว่าพนักงานบริษัทที่ต้องอยู่กับคนหมู่มากปัญหาเยอะแยะวุ่นวาย และคิดมาเสมอว่ามันไม่ใช่สิ่งที่ตนเองชอบ จึงออกมาขายก๋วยจั๊บในตลาดนัดหน้าบ้าน เมื่อเริ่มขายได้สักระยะ ก็คิดว่าตนเองมีความชอบในเรื่องการทำอาหาร และส้มตำ ก็เป็นอีกเมนูอาหารที่ตนเองชื่นชอบ จึงตัดสินใจที่จะเปิดร้านขายส้มตำ ขายยำต่างๆ โดยในการเปิดร้านก็มีความกังวลเหมือนกันเพราะทุนทรัพย์ที่มีอยู่อย่างจำกัด กลัวว่าจะไม่มีลูกค้า กลัวลูกค้าจะไม่ชอบในฝีมือของเรา แต่ตนเองก็พยายามคิดค้น ดัดแปลงให้มีความแปลกใหม่ โดยจะหยิบเอาวัตถุดิบที่มีอยู่ในท้องถิ่นใกล้ตัวมาใช้ และลองมองย้อนหลับไปในอดีตว่าเราเคยทานอะไรมาบ้างและนำมาประยุกต์ให้เข้ากับยุคสมัยและวัตถุดิบที่มีอยู่

นางปาริชาติ กล่าวว่า ที่ร้านจะนำเอาผลไม้ตามฤดูกาล ไม่ว่าจะเป็นมะม่วง ทุเรียน สละ กระท้อน สายบัว มังคุด มะกอก และผลไม้อื่นๆ ที่มีตามฤดูกาลนำมาตำมายำ เพื่อสร้างมูลค่าของเหล่านั้นให้มากยิ่งขึ้น และสร้างความแปลกใหม่ที่ไม่เหมือนที่อื่นๆ ทำให้ลูกค้าที่มาทานที่ร้านถ้าโทรมาสั่งอาหาร เกือบทุกรายจะถามว่าวันนี้มีอะไรแปลกๆ บ้าง หากมีอะไรใหม่ๆ ลูกค้าก็จะสั่งเพื่อลองทานดู และในช่วงนี้ก็เป็นช่วงที่ทุเรียน กระท้อน มังคุด มะม่วง กำลังให้ผลผลิต ลูกค้าที่มาทานในช่วงนี้ก็จะได้ชิมเมนูดังกล่าว

โดยทุเรียน ก็จะเอาทุเรียนเนื้อ 70% เป็นทุเรียนใกล้จะสุกห่าม มาหั่นเป็นชิ้นๆ แล้วแต่ลูกค้าจะสั่งเป็นตำอะไร เช่น ตำทุเรียนปูปลาร้ากุ้งสด ตำทุเรียนไทยใส่ปู โดยวัตถุดิบที่ใช้ในการตำส้มตำ จะใช้ของที่มีคุณภาพทั้งหมด เพราะตนเองจะคิดถึงตนเองเป็นที่ตั้ง โดยน้ำตาลที่ใช้จะเป็นน้ำตาลมะพร้าวแท้ๆ น้ำมะนาว จะต้องเป็นมะนาวแท้ๆ จะไม่ใช้มะนาวขวดและจะไม่บีบมะนาวไว้ก่อนเพราะจะทำให้มะนาวไม่มีความหอม และน้ำปลาร้าที่ทางร้านใช้ก็จะเป็นน้ำปลาร้าที่ต้มแล้วเท่านั้น

ในส่วนของตำอื่นๆ ก็จะเหมือนๆ กันไม่ว่าจะเป็นตำกระท้อน ตำสายบัว ตำสละ ตำมะกอก ตำมังคุด แต่ในส่วนของการตำมะม่วงเคย (เคย ภาษาใต้คือ กะปิ) เป็นอีกเมนูที่ลูกค้าเรียกร้องก็คือ การตำที่เพิ่มความเข้มข้นความหอมมากยิ่งขึ้นโดยใส่กะปิซึ่งเป็นของดีของจังหวัดชุมพรลงไป คลุกเค้าให้เข้ากันกับมะม่วง จะเพิ่มกุ้งสด หรือทานกับหอยแครงลวก แล้วแต่ลูกค้าจะสั่ง แต่ในทุกๆ เมนูจะใส่กากหมูซึ่งทางร้านจะทอดเอง เพิ่มความสวยงามตกแต่งด้วยดอกอัญชันที่ทางร้านปลูกไว้เอง 

นางปาริชาติ เปิดเผยอีกว่า ผักที่ใช้จะเป็นผักที่ชาวบ้านนำมาขายและปลูกเอง ในส่วนของอาหารทะเลที่ใช้ในร้านก็จะเป็นของชาวบ้านที่นำมาขาย จะสดและใหม่ทุกวัน โดยตนเองจะให้แนวคิดที่ว่า บริการด้วยใจ ใส่ใจลูกค้า เหมือนคนในครอบครัว จะทำทุกอย่างให้เหมือนคนในครอบครัวกินและตนเองกินเอง วัตถุดิบที่ใช้จึงคัดสรรที่มีคุณภาพ จากการที่ตนเองตั้งใจและใส่ใจในทุกๆ กระบวนการตั้งแต่เลือกวัตถุดิบ ทำให้ปัจจุบันนี้ได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นจำนวนมาก บางครั้งถ้าไม่ได้จองโต๊ะล่วงหน้าก็อาจไม่มีที่นั่ง ลูกค้าที่เป็นลูกค้าประจำ ก็จะโทรมาสั่งล่วงหน้า ซึ่งตอนนี้ทางร้านกำลังขยายร้านให้กว้างมากยิ่งขึ้นเพื่อที่ลูกค้ามานั่งทานจะได้มีพื้นที่มากยิ่งขึ้น หากใคร อยากจะลองไปทานอาหารที่ร้านครัวดอนรวบ สามารถติดต่อได้ที่เบอร์ 093-6513084 พี่แมว โดยร้านจะอยู่บริเวณหน้าวัดดอนรวบจังหวัดชุมพร ถนน เส้นบ้านหนองทองคำ- ทุ่งคา รับรองได้ว่าใครที่ได้มาลองจะติดใจในรสชาติที่นี่อย่างแน่นอน และที่สำคัญ ราคาอาหารที่สบายกระเป๋าในยุคเศรษฐกิจแบบนี้ โดยราคาเริ่มต้นที่ 40 บาทไปจนถึง 189 บาท