2ไอ้โม่งบุกเข้าบ้าน ป้าวัย 65 ถามที่ซ่อนเงิน ไม่ตอบจับหัวโขก มัดมือ-เท้า วอนตำรวจตามล่าตัว
21 มิ.ย. 2563, 11:10
วันที่ 20 มิ.ย.63 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ร.ต.อ.การุณ จันทร์ดอก รองสารวัตร(สอบสวน)สภ.สตึก อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191บุรีรัมย์ ว่ามีเหตุชิงทรัพย์ ในหมู่บ้านคุ้มประมง ในเขตเทศบาลสตึก จึงรุดเข้าไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบชาวบ้านนับร้อยคน จับกลุ่มพูดคุย และพยายามแจ้งเบาะแสและรูปพรรณของคนร้าย ให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยคนร้ายที่ก่อเหตุใช้เชือกฟางมัดมือมัดเท้า พร้อมกับเอาเสื้อยัดปาก นางมาลี อายุ 65 ปี เจ้าของบ้าน ไว้ภายในบ้านเพราะไม่ยอมบอกที่ซ่อนเงิน และจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด โชคดีที่หลานชายมาพบ ก่อนชาวบ้านจะนำตัวส่งโรงพยาบาลสตึก
จากการสอบถามนายทะนงศักดิ์ อายุ 24 ปี หลานชายที่มาพบยายเป็นคนแรก เล่าว่า เมื่อเวลาประมาณ 19.30 น.ตนไปหายายที่บ้านตามปกติ เมื่อมาถึงบ้านไม่เห็นยายนั่งอยู่หน้าบ้านเหมือนทุกครั้ง ได้ยินเพียงเสียงทีวีภายในบ้าน เมื่อเปิดประตูเข้าไปในบ้าน ก็พบว่ายายนอนไม่ได้สติในสภาพมือสองข้างถูกเชือกฟางมัดติดกันพร้อมกับขาอีกสองข้าง มัดรวมกัน จึงแก้ไห้พร้อมกับแจ้งผู้นำชุมชนเพื่อนำยายส่งโรงพยาบาล ก่อนจะแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปตรวจสอบ
จากการตรวจสอบ พบว่านางมาลี ผู้ถูกทำร้าย และรักษาตัวที่โรงพยาบาลสตึก ได้ฟื้นตัว พร้อมกับเล่าให้กับผู้สื่อข่าวฟังว่า ช่วงเกิดเหตุเวลาประมาณ 18.30 น.ตนได้นอนดูทีวีอยู่ในบ้าน ทันใดนั้นได้มีชาย 2 คน อายุประมาณ 30 ปี เข้ามาภายในบ้าน พร้อมเอาอาวุธปืนและมีดมาขู่ให้บอกที่ซ่อนเงิน ตนยังไม่ทันตั้งตัว หนึ่งในคนร้ายได้จิกหัว ตบใบหน้าและจับหัวโขกกับพื้น พร้อมกับให้บอกที่ซ่อนเงิน ตนจึงบอกไปว่าไม่มีเงิน ทำให้คนร้ายทั้งสองไม่พอใจ เอาเชือกฟางมามัดขู่จะฆ่าให้ตาย ตนจึงบอกว่ามีเงินอยู่ 50 บาท คนร้ายก็ค้นเอาไปจนหมด หลังจากนั้นก็ไม่รู้สึกตัวอีกเลย มารู้สึกตัวอีกทีที่โรงพยาบาล
ด้าน น.ส.นกน้อย ราชวิชา อายุ 34 ปี หลานอีกคน เล่าว่า ครั้งนี้ถือว่าเป็นครั้งที่สองที่ยายโดนคนร้ายเข้าไปชิงทรัพย์ หลังจากเมื่อเดิอนที่ผ่านโดนคนร้ายเข้าไปในลักษณะเดียวกัน ได้เงินไป 3,000 บาท พร้อมทั้งข่มขู่ว่า”ถ้าไปแจ้งตำรวจจะฆ่าให้ตาย”เลยไม่ยอมไปแจ้งความ จึงอยากจะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้ เพราะการกระทำดังกล่าวของคนร้ายไม่เกรงกลัวกฎหมาย และมีความรู้สึกน้อยใจที่กฎหมายไม่สามารถจัดการกับคนกลุ่มนี้ได้ ทั้งที่พอรู้ว่าเป็นใคร