"พี่ชาย" หนุ่มบิ๊กไบค์ ถูกรถ ผญบ. ชนถอยหลังเหยียบซ้ำเสียชีวิต ร้องคดีไม่คืบ ผ่านข้ามปีผู้ก่อเหตุยังลอยนวล
21 มิ.ย. 2563, 20:28
จากกรณี เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2562 เมื่อเวลา 21.50 น. ที่ถนนมิตรภาพสายเก่า บ้านโนนป่าติ้ว ตำบลหนองสาหร่าย อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ได้เกิดอุบัติเหตุ รถจักรยานยนต์ yamaha สีน้ำเงิน ทะเบียน 8 กง 9173 กรุงเทพมหานคร ซึ่งมีนายวีรภัทร พรหมชา ผู้เสียชีวิต ได้ถูกรถเก๋ง ยี่ห้อ toyota fortuner สีขาว ทะเบียน ขน 7132 นครราชสีมา ชนและถอยหลังเหยียบซ้ำจนเสียชีวิต โดยมีผู้ขับขี่คือผู้ใหญ่บ้านแห่งหนึ่งในพื้นที่อำเภอปากช่อง โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาขับรถประมาทเฉี่ยวชนผู้อื่นได้รับความเสียหายมีผู้ถึงแก่ความตาย
ล่าสุด วันที่ 20 มิถุนายน 2563 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า นายวีะชาติ พรหมชา อายุ 19 ปี พี่ชายผู้เสียชีวิต ได้หอบเอกสารเข้าร้องเรียนกับทางผู้สื่อข่าวอีกครั้งหลังจากคดีไม่มีความคืบหน้าอีกทั้งผู้ที่ก่อเหตุยังไม่ได้รับโทษและยังลอยหน้าลอยตาอยู่ในสังคมเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นจึงทำให้รู้สึกหดหู่และสะเทือนใจกับกฎหมายไทย และต้องการให้กฎหมายลงโทษกับคนที่ก่อเหตุ โดยเร็วที่สุด
ด้าน นายวีระชาติ พี่ชายของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า หลังจากน้องชายตนเองได้เกิดอุบัติเหตุจนเสียชีวิตนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการออกหมายเรียกผู้ใหญ่บ้านคนหนึ่งซึ่งตนเองมองว่าไม่มีการรัดกุม และมองว่าเป็นการเอื้อประโยชน์กับผู้ที่ประกอบเหตุ เนื่องจากว่าผ่านมาแล้ว 1 ปี และวันที่ 21 มิถุนายนนี้ ก็จะครบรอบวันเกิดผู้เสียชีวิตแล้ว ก็ยังไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด โดยตนก็รู้สึกเสียใจและอยากให้ผู้ก่อเหตุรับโทษให้เร็วที่สุด หลังจากเกิดเหตุก็พบแต่เพียงตัวแทนเข้ามาพูดคุย ส่วนตัวผู้ก่อเหตุไม่เคยเข้ามาขอขมาผู้เสียชีวิตแม้แต่ครั้งเดียว เพราะไม่กล้าเข้ามาสู้หน้า นอกจากนี้ยังมีการยื่นข้อเสนอให้เป็นเงินจำนวนหนึ่งแต่ทางครอบครัวก็ไม่มีการรับแต่อย่างใด ในส่วนของคลิปเสียงที่ทางภรรยาของทางผู้ใหญ่บ้านที่ก่อเหตุพูดกับคนหนึ่งและมีคนถ่ายไว้ได้นั้น โดยมีข้อความว่าถ้าไม่เหยียบแล้วจะไปต่อได้อย่างไร โดยก่อนหน้านั้นชาวบ้านพบว่าเป็นภรรยาผู้ใหญ่บ้านเป็นคนขับ แต่พอเลือกเราผ่านไปกลับกลายมาเป็นผู้ใหญ่บ้านเป็นคนออกมายอมรับว่าเป็นคนขับรถคันนี้เอง และที่ผ่านมายังพบว่ามีการเสนอเงินจำนวน 40,000 บาท เพื่อแลกกับการให้คดีนี้จบ ซึ่งตนเองก็ไม่ได้รับแต่อย่างใดเพราะชีวิตน้องไม่ได้มีค่าเพียงแค่นี้ หลังจากน้องชายที่เสียชีวิตก็เป็นระยะเวลาประมาณ 1 ปีแล้ว ทางผู้ก่อเหตุก็ยังไม่ได้รับโทษแต่อย่างใด และอยากให้ผู้ใหญ่บ้านผู้ก่อเหตุหยุดการปฏิบัติหน้าที่ เพราะขนาดชนคนยังไม่มีการลงมาช่วยเหลือยังมีการนั่งอยู่ในรถพอรถกู้ภัยมาจึงลงมาจากรถ หลังจากนั้นก็พบว่ามีรถของชาวบ้านมาจอดขวางเอาไว้ไม่ให้หลบหนี โดยตนมองว่าผู้ก่อเหตุไม่ได้มีจิตใจที่จะช่วยเหลือผู้เสียชีวิตแต่อย่างใด ซึ่งตนเองมองว่าผู้ใหญ่บ้านผู้ก่อเหตุเป็นคนของประชาชนควรจะช่วยเหลือประชาชนไม่ว่าจะเป็นการเหยียบหรือชนคนก็ต้องลงมาดู คู่กรณีซึ่งต้องมีจิตสำนึก ไม่ใช่ไม่ยอมรับความจริงแบบนี้