"ผู้การตำรวจ" เมืองกาญจน์ จี้คดีนักเรียนสาวดับปริศนา เค้น "3เพื่อนชาย - 2 เยาวชน" ร่วมวงปาร์ตี้
22 มิ.ย. 2563, 07:49
จากกรณีที่สาววัย 18 ปีเสียชีวิตปริศนาที่บ้านญาติของเพื่อนชาย บ้านเลขที่ 14 หมู่ 4 ต.รางสาลี่อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี เบื้องต้นพ่อแม่สงสัยสาเหตการเสียชีวิต เชื่อลูกสาวอาจจะถูกมอมยาจนช็อกเสียชีวิต โดยสภาพศพสาววัย 18 ปี มีคราบเลือดออกจากปากและจมูก เมื่อวันที่ 17 มิ.ย.63 ที่ผ่านมา
ล่าสุดวันที่ 21 มิ.ย.63 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่าพล.ต.ต.วรณัน สุขเจริญ ผบก.ตร.ภ.จว.กาญจนบุรี ได้เรียกประชุมชุดสืบสวน ภ.จว.กาญจนบุรีและชุดสืบสวน สภ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี และพนักงานสอบสวน สภ.ท่าม่วง ที่ ศปก.สภ.ท่าม่วง ได้รับรายงานว่า การสอบสวนคืบหน้าไปมาก สอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้อง 8 ปาก คือ 1.นายมานพ เหลืองต้นตระกูล อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 33/1 หมู่ 3 ต.กลอนโด อ.ด่านมะขามเตี้ย จ.กาญจนบุรี 2.นางตุ๊ก ไม่มีนามสกุล อายุ 44 ปี ชาวเมียนมา ซึ่งเป็นพ่อและแม่ของ นางสาวณัตินี เหลืองต้นตระกูล หรือ น้องดาว อายุ 18 ปี นักเรียนหญิงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ของโรงเรียนมัธยมชื่อดังแห่งหนึ่งในจังหวัดกาญจนบุรีที่เสียชีวิต 3.นายพงษ์พัฒน์ นักเพียร อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 14/3 หมู่ 4 ต.รางสารี่ อ.ท่าม่วง เพื่อนชายคนสนิทที่พบศพคนแรก 4.ญาตินายพงษ์พัฒน์ เจ้าของบ้านที่เกิดเหตุ 5.นายเต๋า อายุ 21 ปี เพื่อนนายพงษ์พัฒน์ที่เป็นคนขับรถเก๋งสีดำไปรับตัวผู้ตายออกมาจากบ้าน เวลาประมาณ 22.00 น.วันที่ 16 มิ.ย.63และร่วมดื่มสังสรรค์กับนายพงษ์พัฒน์กับผู้ตายและเพื่อนอื่นรวม 6 คนที่บ้านใกล้ที่เกิดเหตุ 6.นายธี อายุ 18 ปี เพื่อนนายพงษ์พัฒน์และนายเต๋าที่ร่วมนั่งรถเก๋งสีดำไปรับผู้ตายที่บ้าน และอีก 2 คนคือ เยาวชนหญิง อายุ 17 อีก 2 คนที่ร่วมดื่มกินกับผู้ตายในวันก่อนเกิดเหตุ โดยพยานทุกปากให้การเป็นประโยชน์ต่อการสอบสวนมาก
นอกจากนี้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจังหวัดกาญจนบุรีได้ตาวจสอยที่เกิกเหตุและเก็บวัตถุพยานในที่เกิดเหตุ ตรวจเก็บดีเอ็นเอ ส่งศพไปชัณสูตรที่สถาบันนิติเวช โดยเบื้องต้นลงความเห็นสาเหตุการเสียชีวิตเกิดจากระบบไหลเวียนโลหิตล้มเหลว และยังได้เก็บตัวอย่างปัสสาวะของผู้ที่เกี่ยวข้องไปตรวจที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 5 (สมุทรสงคราม) เพื่อตรวจหาสารเสพติดและยืนยันผลต่อพนักงานสอบสวนเพื่อนำมารวบรวมพยานหลักฐานประกอบสำนวนสอบสวนต่อไป
หลักการประชุม พ.ต.อ.สุชาย เทสัชบุตร ผกก.สภ.ท่าม่วง กล่าวว่า ตนขอยืนยันว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำคดีอย่างตรงไปตรงมาและให้ความเป็นธรรมกับครอบครัวของผู้เสียชีวิตอย่างแน่นอน
ส่วนบรรยายกาศที่บ้าน นายมานพ เหลืองต้นตระกูล อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 33/1 หมู่ 3 ต.กลอนโด อ.ด่านมะขามเตี้ย จ.กาญจนบุรี ที่เป็นที่ตั้งศพของน้องดาว พบนายมานพรอรับพวงหรีดของ ดร.ณรินทร์ ชำนาญดู ผอ.รร.กาญจนานุเคราะห์ ที่ผู้อำนวยการนำมาร่วมคารวะศพ โดยรอง ผอ.กล่าวสั้นว่า น้องดาวเป็นนักเรียน ม.6 ที่เก่งการรำ แต่หยุดเรียนไปตั้งแต่เทอม 2 ตอนนี้เลยพักการเรียนไว้ก่อน
ส่วนนายมานพเปิดเผยว่า ตนเสียใจมากที่สูญเสียลูกสาว ตอนนี้รอผลการชันสูตรอย่างละเอียด เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงอีกครั้ง โดยก่อนเกิดเหตุ เมื่อช่วงเวลาประมาณ 22.00น. ของวันที่ 16 มิถุนายนที่ผ่านมา มีเพื่อนชายของน้องดาว ได้ขับรถยนต์มารับน้องดาวออกไปจากบ้าน ก่อนที่ทางครอบครัวจะไม่สามารถติดต่อกับน้องดาวได้อีก จนกระทั่ง เวลาประมาณ 11.00 นาฬิกา วันที่ 17 มิถุนายน 2563 จึงได้รับการติดต่อจากเพื่อนของน้องดาวว่า น้องดาว ถูกพบเป็นศพนอนเสียชีวิตอยู่ที่บ้านญาติของเพื่อนชาย ในพื้นที่หมู่ 4 ตำบลรางสาลี่ อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านของน้องดาวประมาณ 10 กิโลเมตร
หลังทราบข่าวทางตนและแม่ ได้รีบเดินทางไปดูศพของลูกสาว และพบว่า น้องดาว นอนหงายเสียชีวิตอยู่บนโซฟาไม้ ที่ตั้งอยู่หน้าบ้านหลังดังกล่าว โดยมี คราบเลือดไหลออกจากปากและจมูก และตามเสื้อผ้าบริเวณหน้าอก แต่ที่บ้านหลังดังกล่าวกลับไม่พบเพื่อนชายของน้องดาว ซึ่งเป็นคนมารับน้องดาวออกไปจากบ้าน มีเพียงหญิงชรา ที่อ้างว่า เป็นย่าของเพื่อนชายน้องดาว ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า พบศพของน้องดาวนอนเสียชีวิตอยู่บนโซฟาไม้ในช่วงเช้า โดยไม่ทราบว่าน้องดาวมานอนอยู่ที่โซฟาหน้าบ้านตั้งแต่ช่วงเวลาใด ขณะที่ตัวหลานชายซึ่งเป็นเพื่อนชายของน้องดาว กลับหายตัวไปและไม่ยอมมาพบหรือให้ข้อมูลใดๆกับพ่อแม่ของน้องดาว
โดยพ่อและแม่ของน้องดาว ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า ตามปกติ น้องดาวเป็นเด็กที่มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัวใดๆ อีกทั้งยังเป็นเด็กที่มีนิสัยร่าเริง และเป็นนางรำของโรงเรียน คอยออกงานสร้างชื่อเสียงให้กับโรงเรียนมาอย่างต่อเนื่อง จึงไม่เชื่อว่าลูกสาวของตนจะป่วยเสียชีวิต และมีความเป็นไปได้ว่าน้องดาว อาจจะถูกเพื่อนชายและกลุ่มเพื่อนของเพื่อนชาย ล่อลวงด้วยการมอมยาเสพติด และน้องดาวอาจจะเกิดช็อกจากฤทธิ์ของยาเสพติด จึงถูกนำตัวมาทิ้งให้นอนเสียชีวิตอยู่ที่โซฟาหน้าบ้าน โดยไม่มีการนำไปส่งโรงพยาบาล ทิ้งให้ลูกสาวของตน ต้องนอนเสียชีวิตอยู่ตามลำพังอย่างโหดร้าย
โดยหลังจากน้องดาวเสียชีวิต เมื่อคืนที่ผ่านมาพ่อแม่ของเพื่อนชายน้องดาว ได้มาฟังสวดศพ แต่ไม่มีการเจรจาพูดคุย “ตนและภรรยาก็เป็นเพียงคนทำงานหาเช้ากินค่ำ ไม่มีความรู้ด้านกฎหมาย เกรงว่าอาจจะไม่ได้รับความเป็นธรรม และลูกสาวของตนอาจจะต้องเสียชีวิตไป โดยไม่ได้รับความเป็นธรรม ตนจึงอยากให้สื่อมวลชนช่วยติดตามข่าวคราวการเสียชีวิตของลูกสาวตนให้ได้ข้อเท็จจริงว่าลูกสาวตนเสียชีวิตจากเหตุใดกันแน่ ส่วนศพในวันที่ 22 มิ.ย.นี้ จึงน่าจะประกอบพิธีเผาศพตามกำหนดการเดิม “ พ่อน้องดาวกล่าวท้ายสุด
ด้าน น.ส.ดวงใจ อัมพบุตร อายุ 44 ปี เพื่อนบ้านตรงข้าม เป็นแม่ค้าร้านขายโชห่วยตั้งอยู่ตรงข้ามบ้านน้องดาวเผยว่า คืนเกิดเหตุตนเห็นน้องดาวเดินข้ามถนนมาจึงถามว่าดาวจะไปไหนสี่ทุ่มแล้วยังจะออกไปไหนเขาก็ตอบมาคำหนึ่งว่า จะไปกินเหล้ากับเพื่อนก็ถึงถามกลับไปว่าบอกพ่อแม่หรือยังเพราะแม่รู้ไหม เราก็เลยมองไปที่บ้านเค้าเห็นแม่เค้าเดินอาบน้ำอยู่ก็เลยคิดว่าพ่อแม่เค้าคงรับรู้แล้วมั้ง ก็เลยไม่ได้ว่าอะไรเขา จากนั้นดาวก็เดินไปรอรถแล้วประมาณ 10 นาที ก็มีรถเก๋งสีดำมาจอด ดาวเปิดประตูขึ้นไปนั่งที่ด้านหลังของรถเก๋ง เราก็เห็นว่าปกติดี และไม่ได้สังเกตป้ายทะเบียนรถอะไร แต่รู้ว่าเป็นรถเก๋งสีดำ
แต่ส่วนใหญ่จะเห็นดาวออกไปกลางวันไม่เคยเห็นออกไปตอนกลางคืน ส่วนนิสัยใจคอของเด็กเป็นคนร่าเริงชอบเต้นชอบรำ มีเพื่อนเยอะ ชอบเที่ยวกับเพื่อนเพื่อนไปไหนก็ไป ไม่ค่อยกลัวอะไร พอรู้ข่าวว่าน้องเสียชีวิตก็ใจหายเหมือนกันเพราะเคยเล่นเคยทักกันอยู่ทุกวัน เป็นประจำ
ส่วน นางสาววันวิภา และ นางสาว วันวิสา รักษี อายุ 18 ปี สองพี่น้องฝาแฝดเพื่อนบ้านแบะเพื่อนนักเรียนสมัยมัธยมต้น ประถมและอนุบาล กล่าวว่า ดาวจะเป็นคนมีนิสัยแรงแรงหน่อยนึง และจะมีความสามารถพิเศษเก่งทางด้านรำไทย รำสวย ก่อนเกิดเหตุดาวก็โทรมาชวนไปกินเหล้านอกบ้านอยู่ แต่ต้นก็ปฏิเสธไปเนื่องจากอยู่คนละสถานที่ประกอบกับฝนตกด้วย แล้วประมาณหนึ่งทุ่มก็ยังทัก มาคุยชวนออกไปกินเหล้า หลังจากวันรุ่งขึ้นเพื่อนโทรมาแจ้งว่าดาวเสียชีวิตแล้วก็รู้สึกตกใจมาก และเสียใจมาก และยังกล่าวถึงคนที่กระทำเพื่อนว่าให้ออกมารับผิดชอบในสิ่งที่ทำด้วย และขอให้ตำรวจจับคนร้ายได้โดยเร็วเร็วอยากรู้เหมือนกันว่าใครมาทำเพื่อนแบบนั้น