เมื่อเวลา 18.00 น.วันที่ 21 มิถุนายน 63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร้อยตำรวจเอกหญิงสุภาภรณ์ ดวงกันยา ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองประจวบ เจ้าของคดีได้เรียกตัว นางสาวขนิษฐา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 28 ปี เจ้าหน้าที่พนักงานวิชาการเงินและบัญชี สำนักงานจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มาสอบปากคำเพิ่มเติมอย่างละเอียดขณะถูกคุมขังตัวชั่วคราวอยู่ภายในห้องขังของ สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์

หลังจากที่นางสาวขนิษฐา ได้ถูกดำเนินคดีปลอมแปลงเอกสารยักยอกเงินของทางราชการที่สำนักงานจังหวัดประจวบฯ ตั้งแต่เดือนมิถุนายน ปี พ.ศ. 2562 ยอดจำนวน 33 ล้านบาท โดยมีญาตินั่งร่วมฟังการสอบปากคำด้วย โดยนายพัลลภ สิงหเสนี ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้มีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการ และศาลจังหวัดประจวบได้ออกหมายจับ เลขที่ จ.47/63 ลงวันที่ 20 มิ.ย. 63 เข้าจับกุมตัวได้ภายในห้องทำงานสำนักงานจังหวัดประจวบฯ หลังสอบปากคำเตรียมส่งฟ้องศาลในวันพรุ่งนี้ ในข้อหายักยอกทรัพย์ปลอมแปลงเอกสารของทางราชการ และใช้เอกสารปลอม หลังตรวจพบระบบการเงินมีพิรุธ

 

 

 

 

 

 

โดยนางสาวขนิษฐา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 82/21 หมู่ 8 ตำบลคลองวาฬ อำเภอเมือง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ให้การยอมรับสารภาพ โดยใช้วิธีการปลอมลายมือชื่อผู้มีอำนาจสั่งจ่าย ตั้งแต่เดือนมิถุนายน ปี พ.ศ.2562 และนำเงินบางส่วนไปใช้ส่วนตัว

มีรายงานข่าวระบุว่า ผู้ต้องหารายดังกล่าวเป็นลูกสาวของอดีตกำนันตำบลคลองวาฬคนหนึ่งที่เคยร่วมทำธุรกิจบริเวณใกล้ชายแดนไทย-เมียนมาร์ ซึ่งผู้ต้องหารายดังกล่าวเป็นบุคคลที่มีความรู้ความสามารถ มีบุคลิกหน้าตาดี และบ่อยครั้งที่ชอบกลับเข้ามาทำงานหลังหมดเวลาราชการ และเดินทางกลับออกจากศาลากลางจังหวัดประมาณ 20.00 น.

โดยผู้ต้องหาเป็นพนักงานจ้างต่อสัญญาจ้าง คราวละ 2 ปี ไม่น่าสามารถเข้าถึงระบบการเงินได้ทั้งหมด และไม่น่าจะสามารถทำเรื่องยักยอกเงินหลวงได้สำเร็จเป็นเวลานานแรมปี และข้ามงบประมาณรายปีได้ ////