เตรียมเฮ! มาตรการช่วยเหลือลูกหนี้บัตรเครดิต กู้บ้าน กู้รถ และอื่น ๆ
22 มิ.ย. 2563, 14:49
ธนาคารแห่งประเทศไทย ได้ออกมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อย ระยะที่ 2 สำหรับลูกหนี้บัตรเครดิต กู้บ้าน กู้รถ และอื่น ๆ ลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2563 แบ่งมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ขั้นต่ำ ดังนี้
คุณสมบัติของลูกหนี้
- ลูกหนี้รายย่อยที่ได้รับผลกระทบจากโควิด 19 เป็นลูกหนี้สถานะปกติ ไม่เป็น NPLs (หนี้เสีย) ณ วันที่ 1 มีนาคม 2563
- การช่วยเหลือตามมาตรการที่ออกใหม่นี้ จะไม่ถือว่าเป็นการผิดนัดชำระหนี้ จึงไม่สามารถเรียกเก็บเบี้ยปรับ หรือค่าใช้จ่ายอื่น ๆ และในกรณีที่ลูกหนี้ประสงค์จะชำระหนี้ก่อนกำหนด จะต้องไม่มีการคิดค่าเบี้ยปรับ
บัตรเครดิต
- เปลี่ยนหนี้บัตรเครดิต ให้เป็นสินเชื่อระยะยาว 48 งวด หรือ
- ขยายเวลาชำระหนี้ ดอกเบี้ยไม่เกิน 12%
สินเชื่อส่วนบุคคล ที่มีวงเงินหมุนเวียน เช่น บัตรกดเงินสด
- ลดอัตราผ่อนขั้นต่ำ ตามความสามารถในการชำระหนี้
- เปลี่ยนเป็นสินเชื่อระยะยาว 48 งวด หรือขยายเวลาชำระหนี้ ดอกเบี้ยไม่เกิน 22%
สินเชื่อส่วนบุคคลที่ผ่อนชำระเป็นงวด และสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ
- ลดค่างวดอย่างน้อย 30% โดยคิดอัตราดอกเบี้ยไม่เกิน 22%
สินเชื่อเช่าซื้อ
- เปลี่ยนเงื่อนไขเป็นไม่จำกัดวงเงินที่สามารถใช้นโยบายผ่อนผันนี้
- เลื่อนชำระค่างวด (เงินต้นและดอกเบี้ย 3 เดือน)
- ลดค่างวดโดยขยายเวลาการชำระหนี้
สินเชื่อบ้าน
- เปลี่ยนเงื่อนไขเป็นไม่จำกัดวงเงินที่จะสามารถใช้นโยบายผ่อนผัน จากเดิมต้องกู้บ้านไม่เกิน 3 ล้านบาท
- เลื่อนชำระค่างวด (เงินต้นและดอกเบี้ย 3 เดือน)
- เลื่อนชำระเงินต้น 3 เดือน และพิจารณาลดดอกเบี้ยให้ตามความเหมาะสม
- ลดค่างวดโดยขยายเวลาการชำระหนี้
วิธีลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ
ทั้งนี้ ลูกหนี้สามารถลงทะเบียนร่วมโครงการดังกล่าวข้างต้น ผ่านช่องทางต่าง ๆ ของผู้ให้บริการทางการเงิน เช่น แอปพลิเคชัน เว็บไซต์ Call Center หรือส่งข้อความ SMS ได้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2563
ลดเพดานดอกเบี้ย : มีผลตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2563 เป็นต้นไป มีรายละเอียด ดังนี้
- บัตรเครดิต ลดดอกเบี้ยจาก 18% เหลือ 16%
- สินเชื่อส่วนบุคคลที่มีวงเงินหมุนเวียน ดอกเบี้ยจาก 28% เหลือ 25%
- สินเชื่อส่วนบุคคลที่ผ่อนชำระเป็นงวด ดอกเบี้ยจาก 28% เหลือ 25%
เพิ่มวงเงินบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล : มีผลตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2563
สำหรับลูกหนี้ที่มีความจำเป็นต้องใช้วงเงินเพิ่มเติม และมีพฤติกรรมการชำระหนี้ที่ดีมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีรายได้เฉลี่ยต่อเดือนต่ำกว่า 30,000 บาท ขยายวงเงินจากเดิม 1.5 เท่า เป็น 2 เท่าของรายได้เฉลี่ยต่อเดือน เป็นการชั่วคราว มีผลตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2563 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2564
การปรับปรุงโครงสร้างหนี้
ผู้ให้บริการทางการเงินต้องเร่งปรับปรุงโครงสร้างหนี้ให้แก่ลูกหนี้ โดยคำนึงถึงความสามารถในการชำระหนี้ เพื่อช่วยบรรเทาภาระให้ลูกหนี้ เช่น ขยายระยะเวลาการชำระหนี้ เปลี่ยนสินเชื่อจากระยะสั้นเป็นระยะยาว เลื่อนการชำระค่างวด ลดดอกเบี้ย และกรณีลูกหนี้ได้รับผลกระทบจนเป็น NPLs ขอให้พิจารณาชะลอการยึดทรัพย์