จากกรณี เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2563 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า นายธีรัตน์ บางเพ็ชร ผอ.สนง.ป.ป.ช.ประจำจังหวัดสกลนคร นำคณะลงพื้นที่การก่อสร้างปั๊มน้ำมัน ที่มหาวิทยาลัยราชภัฎสกลนคร โดยการแจ้งเบาะแสของชมรม STRONG -จิตพอเพียง สกลนคร หลังว่าพบสิ่งปลูกสร้างปั๊มน้ำมันรุกกล้ำลำน้ำสาธารณะ (ลำห้วยทราย) ภายในมหาวิทยาลัยฯ จึงได้ประสานไปยังอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร และนายกเทศมนตรีนครสกลนคร เพื่อหารือบริเวณที่มีการปลูกสร้างสิ่งล่วงล้ำลำน้ำ ภายหลังจากการหารือ พบว่ามหาวิทยาลัยราชภัฎสกลนคร ได้ขออนุญาตก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างปั๊มน้ำมันและอาคาร จากเทศบาลฯ แล้ว ส่วนบริเวณสิ่งปลูกสร้างที่เป็นที่พัก เพื่อนั่งรับประทานอาหาร และเครื่องดื่ม ตลอดจนที่สูบบุหรี่และสนทนา ซึ่งเป็นการเพิ่มเติมจากแบบยังไม่ได้รับอนุญาต ตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 และที่แก้ไขเพิ่มเติม

เกี่ยวกับเรื่องนี้ วันที่ 24 มิถุนายน 2563  ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ผศ.ชาคริต ชาญชิตปรีชา รองอธิการบดีฝ่ายบริหาร มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร เปิดเผยว่า หลังจากข่าวนี้ออกไปยังโลกโซเชียล คนอ่านอาจจะคิดว่าทางมหาวิทยาลัยฯ รุกล้ำไปแล้วสร้างความไม่สบายใจแก่ผู้บริหาร จึงต้องออกมาชี้แจงว่า นายธีรัตน์ บางเพ็ชร ผอ.ป.ป.ช.ฯ เดินทางมาตรวจสอบนั้น ท่านก็ได้แนะนำว่าให้ทางจังหวัด  โดยท่านผู้ว่าฯ จะมอบหมายให้นายอำเภอ เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยทาง ป.ป.ช. บอกว่ามีกรรมการที่เกี่ยวข้องอยู่  เช่นเอกสารจากที่ดินเพื่อจะได้ชี้ชัด ซึ่งประเด็นตรงนี้ทางมหาวิทยาลัยฯ ขอเรียนว่าเรายังไม่ได้รุกล้ำเข้าไป แต่มีผู้ไปบอก ป.ป.ช. ว่าเรารุกล้ำ

อันที่จริงแล้วแนวเดิมของลำห้วยมันมีนิดเดียว ที่เราขุดลอกมาให้กว้างขึ้นและแก้ปัญหาการตื้นเขิน ถ้าเรามองจากทางแนวคอสะพาน เราจะเห็นได้ชัดว่าเราไม่ได้ไปถม ดังนั้น เราจะขอให้ทางจังหวัดเรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดน ผอ.ป.ป.ช.ฯ ก็ได้แนะนำให้ท่านนายอำเภอ และหน่วยงานที่ดิน ได้ดูแนวลำรางสาธารณะหรือแนวห้วยทราย ที่สำนักงานที่ดินจะมีจะได้ชี้ชัดว่ารุกล้ำหรือไม่ แต่ถ้ามหาวิทยาลัยรุกล้ำ เราก็ต้องแก้ไขอยู่แล้ว แต่ประเด็นตอนนี้เรายังไม่ได้รุกล้ำ แต่มีคนไปชี้เองก็เลยมองเป็นว่าเราไปรุกล้ำ ตอนนี้ทางฝ่ายปกครองกำลังร่วมกันแก้ไขกับทางมหาวิทยาลัยอยู่ ตอนนี้เรื่องยังอยู่ที่กระบวนการของจังหวัด แต่ว่าตามแนวนี้ไม่ได้รุกล้ำแน่นอน