จากกรณีศาลจังหวัดกาญจนบุรีนัดอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 7 ในคดีที่ครูปรีชา ใคร่ครวญ เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง ร้อยตำรวจโทจรูญ วิมูล ในความผิดฐานยักยอกทรัพย์รับของโจร ซึ่งหลังจากที่ทั้งสองฝ่ายเดินทางมาพร้อมกันที่ศาลตามเวลานัดในเวลา 09.00 นาฬิกา ได้มีการแยกย้ายกันออกไปเอาสำนวนและเอกสารในคดีมาให้สารตรวจสอบอีกครั้งในเวลา 10.00 น. 

กระทั่งเวลา 14.00 น.  ทนายตั้ม พร้อมด้วยลุงจรูญ ได้เดินลงมาจากห้องพิจารณาคดีพร้อมเปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า ในวันนี้ศาลจังหวัดกาญจนบุรีได้มีคำสั่ง เลื่อนวันอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 7 ออกไปก่อน อันเนื่องมาจากศาลอุทธรณ์ภาค 7 ได้มีคำสั่งให้ทั้งสองฝ่ายตรวจสอบความถูกต้องของเอกสารและสำนวนในคดี เนื่องจากมีความคลาดเคลื่อนในส่วนของจำนวนหน้า ที่มีการระบุลงในสำนวน โดยตั้งแต่เวลา 10.00 น. มีการนำเอาสำนวนและเอกสารของทั้งสองฝ่ายมาตรวจสอบความถูกต้องจนแล้วเสร็จ  แต่เนื่องจากในวันนี้ ทนายวรยุทธ บุญวงศ์ใส ทนายความของครูปรีชาไม่ได้เดินทางมาที่ศาลด้วย จึงมีการนัดตรวจสอบความถูกต้องของเอกสารอีกครั้งในวันที่ 30 มิถุนายนนี้

 

ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดความสบายใจทั้งสองฝ่ายของครูปรีชาและฝ่ายของลุงจรูญ โดยหลังจากวันที่ 30 มิถุนายน ศาลจะได้นัดวันที่จะให้ทั้งสองฝ่ายมาฟังคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ภาค 7 อีกครั้ง ในเรื่องนี้ ลุงจรูญได้กล่าวว่า ไม่ได้รู้สึกหนักใจหรือกลัวว่าการเลื่อนนัดฟังคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ภาค 7 จะทำให้คำพิพากษาผิดเพี้ยนไปจากเดิมแต่อย่างใด จากนี้ก็คงจะรอให้เป็นไปตามขั้นตอนของกระบวนการยุติธรรม เมื่อศาลนัดมาฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ก็จะได้เดินทางมาตามกำหนดนัดหมาย

 

ด้านฝั่งของครูปรีชา ใคร่ครวญ กล่าวว่า โดยส่วนตัวไม่ได้มีความกังวลใดๆเพราะตามปกติตนก็เดินทางมาศาลเป็นประจำอยู่แล้ว ในส่วนของความคลาดเคลื่อนเรื่อง จำนวนหน้าของเอกสารและสำนวนที่เกิดขึ้น ต้นไม่ขอแสดงความคิดเห็นใดๆ เพราะถือเป็นเรื่องของกระบวนการในชั้นศาล ส่วนที่ในวันนี้ทนายของตนไม่ได้เดินทางมาศาลด้วยนั้น เนื่องจากทนายวรยุทธ มีภารกิจ ว่าความที่ศาลจังหวัดอื่นจึงส่งตัวแทนมา โดยในวันที่ 30 ทนายวรยุทธ จะได้เดินทางมาตรวจสอบความถูกต้องของเอกสารอีกครั้ง ซึ่งแม้ว่าศาลจะเลื่อนวันนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 7 ออกไป แต่ตนก็ไม่ได้มีความวิตกกังวลว่าจะได้เปรียบหรือเสียเปรียบในเรื่องนี้ เพราะความจริงก็คือความจริง หลังให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนเสร็จเรียบร้อย ฝ่ายของครูปรีชาและฝ่ายของลุงจรูญต่างแยกย้ายกันเดินทางกลับ ก่อนที่จะเดินทางมาพร้อมกันอีกครั้งที่ศาลจังหวัดกาญจนบุรีในวันที่ 30 มิถุนายน 2563 เพื่อตรวจสอบความถูกต้องของเอกสารและสำนวนในคดีอีกครั้ง