เมื่อเวลา 14.30 น.วันที่ 26 มิ.ย. 63  นางสาววัลภา แก้วสวี พัฒนาและความมั่นคงของมนุษย์ จ.ชุมพร รับแจ้งจากชาวบ้าน ใน ต.นาขา อ.หลังสวน จ.ชุมพร ว่าพบครอบครัวชาวบ้านยากจน มีลูกสาวถูกพี่เขยข่มแหง รังแก ทุบตี ข่มขืนแถมขู่ฆ่าจนต้องหลบหนีไปอยู่ที่ตำบลอื่น เป็นที่น่าเวทนา หดหู่ แก่ชาวบ้านที่ทราบเรื่อง

นส.วัลภา แก้ว พมจ.ชุมพร พร้อมด้วย จนท.บ้านพักฉุกเฉินเด็กและครอบครัว จังหวัดชุมพร เดินทางไปยังบ้านของผู้เสียหาย ในพื้นที่ สวนปาล์ม ใน ต.นาขา อ.หลังสวน จ.ชุมพร พบว่าเป็นที่น่าเวทนามาก เป็นบ้านแบบกระท่อมขนาดเล็กในบ้านมีเพียงมุ้งกับที่นอนเก่าๆ และเสื้อผ้าเก่าๆ แขวนอยู่ทั่วทั้งบ้าน พบ นาย เอก (นามสมมุติ) อายุ 41 ปี นาง แหม่ม(นามสมมุติ)  อายุ 38 ปี และ นส.ดำ (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี ที่มีลักษณะเป็นสาวทอม ตั้ดผมสั้นแบบรองทรง หน้าตาเศร้าหมอง พร้อมเพื่อนบ้านที่ทราบข่าวมาให้กำลังใจ แก่ ครอบครัวจำนวนหนึ่ง คนทั้ง3 นำ จนท.เข้าไปนั่งพูดคุยในบ้าน นางแหม่ม เล่าว่า มีอาชีพรับจ้างตัดปาล์มในสวน เจ้าของสวนให้อาศัยสร้างกะท่อมเพื่ออยู่อาศัย มีรายได้มีวันละ 100 -200 บาท มีภาระต้องเลี้ยงดู ลูก2คน มี นส.ดำ เป็นลูกสาวคนโต และลูกชายอีกคน

นส.ดำ  เล่าให้ ฟังว่า เมื่อช่วงกลางเดือน มิย.ที่ผ่านมา ได้มีนายใหญ่(นามสมมุติ)  อายุ 47 ปี มีศักดิ์ เป็นพี่เขย เป็นสามีของพี่สาวลูกลุงของ นส.ดำ  เป็นลูกพี่ลูกน้องของ นางแหม่ม มีบ้านเรือนอยู่ใน อ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร ห่างที่เกิดเหตุไป ร่วม 20 กม. นายใหญ่ได้ขี่ จยย มาที่บ้าน ในเวลานั้น นส.ดำ อยู่ภายในบ้านคนเดียว เมื่อมาถึงตรงเข้าปลุกปล้ำ นส.ดำ ทันที พร้อมทั้งพูดว่า ชอบ นส.ดำมานานแล้ว และถามว่า นส.ดำก็ รักนายใหญ่ด้วยใช่ไหม นส.ดำ ตกใจ บอกกับนายใหญ่ว่า รักเคารพแบบพี่เขย ไม่ได้คิดแบบชู้สาว อีกทั้ง นส.ดำชอบผู้หญิงด้วยกัน แต่ นายใหญ่ ไม่สนใจใช้มือต่อยที่หน้าท้องจน นส.ดำ จุกตัวงอ พูดไม่ออก นายใหญ่ขู่จะฆ่าทิ้ง ถ้าไม่ยอม และ ลงมือข่มขืนไป2 ครั้ง และขู่ว่า ถ้าบอกพ่อแม่จะฆ่าทิ้ง นส.ดำได้แต่เก็บความเจ็บปวดไม่กล้าเล่าใคร ต่อมาอีก สองวัน นายใหญ่ มาที่บ้านอีก และใช้กำลังข่มขู่บังคับข่มขืนอีก1 ครั้ง คราวนี้ นายใหญ่ ยังอวดอ้วดอ้างว่า ต่อให้ไปแจ้งตำรวจก็ ไม่มีใครทำอะไรตนเองได้เนื่องเป็นสายข่าว ใน”ทีมชุมพรใต้” ที่ทำงานร่วมกับตำรวจ และจะมาฆ่าครอบครัวของนส.ดำให้ตายทั้งบ้าน นส.ดำรู้สึกกลัวมาก เพราะ นายใหญ่พกปืนอยู่ตลอดเวลา

แต่ด้วยความเจ็บปวด จน นางแหม่ม ผู้เป็นแม่สังเกตเห็น คาดคั้น จน นส.ดำ ร้องไห้เล่าให้แม่ฟังทั้งหมด คนทั้ง3 จึง พากันไปแจ้งความ ที่ สภ.บ้านในหูต อ.หลังสวน  จ.ชุมพร มี พ.ต.ท.ภักดี ตันอนุกูล สารวัตร สอบสวน เจ้าของคดี ส่งตัวไปให้แพทย์ตรวจร่องรอยการข่มขืน ที่ รพ.หลังสวน และ ให้รอผลการตรวจร่างกาย พร้อมทั้ง เรียกตัวนายใหญ่มาสอบปากคำ จนกระทั่งเมื่อวานซืน นายใหญ่ได้ฝากข้อความผ่านคนรู้จักมาว่า จะให้เงินเป็นค่าเสียหายหลายแสนบาท ถ้าไม่รับเงินจะเดือดร้อนแน่ ด้วยความกลัว คนทั้ง3 จึงหลบหนีไปอาศัยบ้านเพื่อนในตำบลอื่นอาศัยอยู่ จน มีคนโทรไปบอก หน่วยงาน พมจ.ชุมพร เดินทางมาตรวจสอบข้อเท็จจริง และ จะได้นำตัวคนทั้งหมดในครอบครัวนี้ไปอยู่ในที่ปลอดภัยก่อนจะประสานงานกับตำรวจทางด้านคดีต่อไป   ทางด้าน พ.ต.ท.สุริยน ชมมี สวญ.หัวหน้า สภ.บ้านในหูต กล่าวทางโทรศัพท์ ว่า ได้รับทราบเรื่องนี้แล้ว และ เมื่อผลตรวจร่างกายออกมา จะดำเนินคดีต่อนายใหญ่ ทันที ตำรวจจะให้ความเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย อีกทั้ง พล.ต.ต.วิมล พิทักษ์บูรพา ผบก.ตร.ชุมพร ทราบเรื่องแล้วสั่งให้ดำเนินคดีตามกฏหมายอย่างตรงไปตรงมา//-ประสิทธิ์ ลีฬหคุณากร/  ชุมพร