เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



สลด! เจ้าของคอกหอยแครงเครียด ชาวบ้านลักเก็บไล่ก็ไม่เลิก หัวใจวายดับคาที่


26 มิ.ย. 2563, 19:26



สลด! เจ้าของคอกหอยแครงเครียด ชาวบ้านลักเก็บไล่ก็ไม่เลิก หัวใจวายดับคาที่




ผู้สื่อข่าว ONBnews รายงานว่าเมื่อเวลา 10.00น.วันที่ 26 มิถุนายน 2563 ขณะที่ชาวประมงพื้นบ้านประมาณ 200 ลำเข้าตักเก็บหอยแครง ของนายสุรัตน์ คชรัตน์ อายุ 60 ปี ชาวต.ท่าเคย อ.ท่าฉาง จ.สุราษฎร์ธานี ในพื้นที่หมู่ 4 ต.ลีเล็ด อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานีนายสุรัตน์ พร้อมพวกได้ขับเรือออกไปยังบริเวณคอกหอยของตนเอง ร้องห้ามไม่ให้ชาวบ้านตักเก็บหอยแครงและเกิดการโต้เถียงกันขึ้น จู่ๆนายสุรัตน์ คชรัตน์ เจ้าของคอก ได้เกิดช็อกหมดสติ ญาตินำส่งโรงพยาบาลท่าฉาง ยื้อชีวิตแต่ได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา สำหรับคอกหอยดังกล่าวมีเนื้อที่ 80 ไร่ ที่นายสุรัตน์อ้างว่าได้ซื้อลูกหอยแครงมาในราคากว่า 3 ล้านเพาะเลี้ยงไว้ก่อนนี้ 

ต่อมาเวลา 12.30 น. นายสุทธิพงษ์ คล้ายอุดม รอง ผวจ.สุราษฎร์ธานี พร้อมนายถาวร พรหมฉิม นอภ.ท่าฉาง ได้เดินทางไปที่ แพลุงรัตน์ เลขที่ 408 หมู่ที่ 4 บ้านที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพ นายสุรัตน์  เพื่อเยี่ยมให้กำลังใจครอบครัว พบกับ นางจรัสวลี วนิชนานนท์ อายุ 60 ปี ภรรยา ลูกๆ และญาติ อยู่ในอาการโศกเศร้า กำลังจัดเตรียมงานบำเพ็ญกุศลศพ 

นางจรัสวลี วนิชนานนท์ อายุ 60 ปี ภรรยา กล่าวว่า การสูญเสียสามีในครั้งนี้ รู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก โดยก่อนเกิดเหตุ เมื่อเวลาประมาณ 8.00 น.วันเดียวกัน ได้มีญาติโทรศัพท์เข้ามาแจ้งว่า มีกลุ่มชาวบ้านขับเรือเข้ามารอตักเก็บหอยรอบๆบริเวณพื้นที่เลี้ยงหอย สามีจึงได้ขับเรือออกไปเพื่อไปร่วมกับชาวบ้านผู้ประกอบการเลี้ยงหอยคอกอื่นในการห้าม ไม่ให้ชาวประมงตักเก็บลูกหอย และพบว่าชาวบ้านที่อ้างว่าเป็นเรือประมงพื้นบ้านกว่า 200 ลำ กำลังเข้าตักเก็บหอยในคอกของตนเอง ซึ่งได้ซื้อพันธุ์ลูกหอยแครงจากพื้นที่ อ.เมืองมาเลี้ยงไว้ ขณะเกิดการโต้เถียง จู่ๆเกิดอาการแน่นหน้าอก ช็อกและหมดสติ นำส่งโรงพยาบาลท่าฉางแต่ไม่สามารถยื้อชวีตได้ ประกอบกับเป็นโรคหัวใจอยู่ด้วย
นางจรัสวลี กล่าวต่อว่า ครอบครัวเพิ่งเริ่มมาทำธุรกิจเลี้ยงหอยมาได้ 2 ปีที่แล้ว โดยผลประกอบการปีก่อนไม่ได้กำไรอะไร และในปีนี้เมื่อทราบว่า ลูกหอยแครงเกิดจำนวนมาก จึงเริ่มซื้อลูกหอยแครงตั้งแต่ตะกร้าละ 2 หมื่นบาท เมื่อวันที่ 11 พ.ค. และครั้งล่าสุด 26 พ.ค.ที่ผ่านมาด้วยเงินลงทุน 3.3ล้านบาท เป็นเงินที่ตนเองและลูกๆ ได้กู้ธนาคาร มา 2 ล้านบ้านและกู้นอกระบบ 1 ล้านบาท ซึ่งครอบครัวพยายามจะห้าม ขอร้องไม่ให้กลุ่มชาวบ้านที่อ้างว่าเป็นชาวประมงพื้นบ้านเข้าตักเก็บ และอยากจะขอความเห็นใจให้หยุดตักเก็บหอยแครงในพื้นที่ที่มีผู้เลี้ยง ให้ทางจังหวัดได้ดำเนินการจัดการแก้ปัญหาก่อนและอยากให้เห็นใจผู้ที่ลงอ้างสิทธิครอบครอง เพราะต่างไปกู้หนี้ยืมสินมาอย่างเช่นครอบครัวของตนเองและขอให้การสูญเสียชีวิตในกรณีนี้เป็นเหตุสุดท้าย


วันเดียวกันผู้ประกอบการเลี้ยงหอย ในพื้นที่ อ.เมืองและ อ.พุนพิน ได้ยื่นหนังสือ ต่อนายวิชวุทย์ จินโต ผวจ.สุราษฎร์ธานี ในฐานะประธานคณะกรรมการประมงจังหวัดสุราษฎร์ธานี ขออุทธรณ์โต้แย้งคำสั่งให้รื้อถอนขำเฝ้าหอยและโฮมสเตย์ หรือสิ่งปลูกสร้างที่ติดตั้งในที่จับสัตว์น้ำ ในทะเลอ่าวบ้านดอน 
โดยผู้ประกอบการระบุว่าการให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างดังกล่าว เป็นคำสั่งทางปกครองที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ส่งผลให้ผู้ประกอบการเลี้ยงหอยไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะต้องทำการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างขนำที่ปลูกไว้เพื่อดูแลปกป้องทรัพย์สิน อีกทั้งไม่ได้เป็นสิ่งปลูกสร้างที่ถาวร รัฐควรใช้วิธีการอื่นในการแก้ไข เช่นการเก็บภาษีจากเจ้าของขนำแทนการรื้อถอน และข้อดีของการมีสิ่งปลูกสร้างคือช่วยเป็นแนวป้องกันเรืออวนลากอวนรุนไม่ให้เข้ามาในเขตประมงพื้นบ้านเป็นการช่วยเพิ่มปริมาณสัตว์น้ำได้อีกทางหนึ่ง แต่รัฐจะต้องเข้มงวดไม่ให้มีการก่อสร้างเพิ่มเติม









Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.