รวบเจ้าอาวาสวัดดัง ลอบตัดไม้สร้างซุ้ม ของกลาง มูลค่านับแสน
26 มิ.ย. 2563, 20:18
วันนี้ 26 มิ.ย.63 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า เมื่อวันที่ 25 มิ.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ กจ.19 (บ้องตี้) ร่วมกับเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ กจ.1 (ท่าเสา) เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษป่าไม้กาญจนบุรี เจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า มว.ลว.ที่ 3 เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอไทรโยค เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 136 เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.)เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดป้องกันปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ปทส.ภ.7)
ได้ร่วมกันนำกำลังออกตรวจปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ เนื่องจากได้รับแจ้งจากสายลับว่า มีเจ้าอาวาสวัดชื่อดังแห่งหนึ่ง ได้ให้กลุ่มคนเข้าไปตัดโค่นไม้ในป่าบ้านทุ่งฉาง ซึ่งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าวังใหญ่และป่าแม่น้ำน้อย ท้องที่ หมู่ 4 ต.ศรีมงคล อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี
ทั้งนี้ตามที่ได้รับแจ้งจากผู้หวังดีแต่ไม่ประสงค์ออกนามแจ้งว่ามีพระจากวัดหนองปลาซิว ชื่อพระอาจารย์ดำ ได้ให้กลุ่มคนเข้าไปลักลอบตัดโค่นไม้ในป่าบ้านทุ่งฉาง คณะเจ้าหน้าที่จึงได้ร่วมกันเดินทางไปตรวจสอบบริเวณดังกล่าวตามที่ได้รับแจ้ง ผลปรากฏว่าตรวจพบการลักลอบเข้าไปตัดต้นไม้อยู่ จำนวน 3 จุด จุดที่ 1 พิกัด 47 P 0503593 E 1549441 N พบไม้ท่อนถูกชักลากลงมาจากบนเขา จำนวน 1 ท่อน เพื่อรอการขนย้าย เจ้าหน้าที่จึงได้ติดตามรอยชักลากขึ้นไปบนเขา พบตอไม้ชนิดเดียวกับไม้ท่อนที่ตรวจพบอยู่ด้านล่าง และพบไม้ที่ถูกตัดทอนเป็นท่อนกองอยู่บริเวณตอไม้ อีก 1 ท่อน รวม 2 ท่อน
จุดที่ 2 ที่พิกัด 47 P 0504922 E 1549614 N พบการตัดโค่นไม้จนเหลือแต่ตอ กระจัดกระจายอยู่ทั่วบริเวณและพบไม้ที่ถูกตัดทอนเป็นท่อนแล้วกองอยู่ตามเส้นทางในป่าเพื่อรอการขนย้าย จำนวน 19 ท่อน จุดที่ 3 พิกัด 47 P 0 5 05586 E 1548691 N พบไม้ท่อนถูกชักลากลงมาจากบนเขา จำนวน 1 ท่อน เพื่อรอการขนย้าย เจ้าหน้าที่จึงได้ติดตามรอยชักลากขึ้นไปบนเขา พบตอไม้ชนิดเดียวกับไม้ท่อนที่ตรวจพบอยู่ด้านล่าง คณะเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบไม้ท่อนทั้งหมดที่ตรวจพบ พบว่าเป็นไม้หวงห้ามตามพระราชกฤษฎีกากําหนดไม้หวงห้าม พ.ศ.2530
และได้ตรวจวัดขนาดคำนวณปริมาตร ได้ไม้ท่อนหวงห้ามจำนวน 22 ท่อน แยกเป็นไม้มะหาด 7 ท่อน ไม้ประดู่ 8 ท่อน ไม้คาง 4 ท่อน ไม้ตะเคียนหนู 2 ท่อน และไม้เกว้า 1 ท่อน ปริมาตรรวมกัน 11.57 ลูกบาศก์เมตร คิดเป็นเงินค่าภาคหลวงจำนวน 505.80 บาท คิดเป็นเงินที่รัฐเสียหาย จำนวน 154,700 บาท ไม้ท่อนทั้งหมดมีสภาพใหม่สดก่อนการตัดทอนโดยใช้เลื่อยยนต์
ตรวจสอบบริเวณหน้าตัดของไม้ทุกท่อนไม่พบรูปรอยดวงตราของพนักงานเจ้าหน้าที่ตีประทับไว้แต่อย่างใด จึงเป็นไม้ที่ได้มาโดยมิชอบด้วยกฎหมายคณะเจ้าหน้าที่ได้ใช้ดวงตรา ต.9816 ย.1976 เลขเรียง 117-138 ตีประทับไว้ที่หน้าตัดของไม้ทุกท่อน เพื่อแสดงการตรวจยึดไม้ของคณะเจ้าหน้าที่ เพื่อจะได้ขนย้ายไม้ท่อนกองกลางไปเก็บรักษาไว้ที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ กจ 19 (บ้องตี้)ต่อไป
ต่อมาคณะเจ้าหน้าที่พร้อมด้วย พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรไทรโยค ได้ร่วมกันเดินทางไปยังวัดหนองปลาซิว หมู่ 6 ตำบลศรีมงคล อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี ไปถึงวัดหนองปลาซิว ได้พบกับพระสยาม เปลี่ยนสี หรือพระอาจารย์ดำ เจ้าอาวาสวัดหนองปลาซิว เจ้าหน้าที่ได้แจ้งความประสงค์ในครั้งนี้ให้ทราบ
ซึ่งพระสยาม รับว่าไม้ท่อนเป็นของตนเอง โดยได้ให้นายเหวย ไม่ทราบนามสกุล เข้าไปตัดโค่นและตัดทอนเป็นท่อนๆไว้ และตนเองกำลังจะเข้าไปขนย้ายไม้ท่อนออกจากป่า เพื่อมาก่อสร้างซุ้มวัด แต่คณะเจ้าหน้าที่มาตรวจพบเสียก่อน พนักงานเจ้าหน้าที่ จึงได้จัดทำเรื่องราวทั้งหมด มอบให้นายไพโรจน์ เขียวแก้ว เจ้าพนักงานป่าไม้ชำนาญงาน หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ กจ 19 (บ้องตี้) นำไปแจ้งความกล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรไทรโยค และให้นายอนุสรณ์ สง่าแสง ปลัดอำเภอไทรโยค เป็นพยานในคดีนี้ และขอให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีกับพระสยาม เปลี่ยนสีฉายา อภิวโร
ตามกฎหมายพระราชบัญญัติป่าไม้พุทธศักราช 2484 มาตรา 11,69 ฐานทำไม้หวงห้ามอันยังมิได้แปรรูปไว้ในครอบครองโดยไม่มีรูปรอยตราค่าภาคหลวง หรือรูปรอยตรารัฐบาลขาย โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่ และเป็นการกระทำผิดตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 มาตรา 14,31 ฐาน กระทำด้วยประการใดๆอันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่./