ทั้งนี้ทางผู้จัดการโรงแรมศิลาวดี ได้ทำคอกไม้ไผ่เป็นรั้วกั้นเอาไว้ เพื่อป้องกันสัตว์เลื้อยคลานเข้าไปกินไข่เต่า และป้องกันคนรบกวน พร้อมป้ายห้ามเข้า ขณะเดียวกันทางโรงแรมยังได้ติดตั้งกล้อง cctv อีกจำนวน 4 ตัว เพื่อฝ้าสังเกตุการณ์ และติดตามเฝ้าพฤติกรรมของเต่าทะเล 

 

 

 

ด้านนายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า นับว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดี ภายหลังจากการเกิดสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ธรรมชาติไม่ถูกรบกวน เนื่องจากทางจังหวัดได้สั่งงดกิจกรรมการท่องเที่ยวบนชายหาดและในทะเล จึงส่งผลดีกับระบบนิเวศและธรรมชาติ ได้รับการฟื้นฟู เกิดความสมบูรณ์ขึ้น ที่สำคัญที่สุดคืดเต่าทะเลเช่นเต่ากระ และเต่าตนุ ได้ทยอยขึ้นมาวางไข่บนชายหาดอำเภอเกาะสมุยอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเป็นรังที่ 18 ในรอบปีนี้แล้ว ซึ่งในตอนนี้ ต้องขอขอบคุณทางเจ้าของโรงแรมผู้จัดการโรงแรม ที่ให้ความสำคัญกับสิ่งเหล่านี้

 

โดยเฉพาะมีมาตรการป้องกัน ห้ามคนรบกวน และมีการติดตั้งกล้องวงจรปิด และที่สำคัญคือทางทีมสัตว์แพทย์ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนกลาง (ทช) จังหวัดชุมพร ที่ได้ให้ความสำคัญให้ความรู้กับทางโรงแรม ในการป้องกัน และช่วยกันดูแลพื้นที่ช่วยกันอนุบาลเต่า ทำให้เต่าทะเลได้ขึ้นมาวางไข่ในบริเวณชายหาดแห่งนี้เป็นรังที่ 5  แล้ว และในจำนวน 5 รังนี้ ได้ฟักเป็นตัวไปแล้ว 1 รังคงเหลืออีก 4 รัง ที่ยังรอฟักตัวบนชายหาดแห่งนี้ ซึ่งนับว่าน่ายินดีที่สุด ที่เกาะสมุย ไม่ค่อยมีปรากฎการณ์ เต่าทะเลขึ้นมาวางไข่บนชายหาดเกาะสมุย มากว่า 10 ปีแล้วดังนั้นพวกเราจึงต้องช่วยกันอนุรักษ์ เอาไว้ เพื่อที่จะได้มีประชากรเต่ทะเลเพิ่มมากขึ้น

 

ซึ่งในอนาคต ตนจะได้กันพื้นที่บริเวณที่เต่าทะเลขึ้นมาวางไข่มากที่สุด จะทำการเป็นเขตควบคุมอนุรักษ์เต่า ไว้เพื่อเป็นการศึกษา และเป็นที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ เต่าทะเลต่อไป ซึ่งตนเชื่อเหลือเกินว่า หากธรรมชาติ บนเกาะสมุย ยังมีความเงียบสงบและสิ่งแวดล้อมที่ดีแบบยั่งยืนแบบนี้ จะมีแม่เต่าขึ้นมาวางไข่ เพื่อแพร่กระจายประชากรเต่าทะเล ในอำเภอเกาะสมุย เป็นจำนวนมาก และไม่เคยมีปรากฎการณ์แบบนี้มานานแล้ว เท่าที่ทราบข้อมูลพบว่าในพื้นที่ภาคใต้ เต่าทะเลขึ้นมาวางไข่มากที่สุดโดยเฉพาะที่เกาะสมุย ครั้งนี้เป็นรังที่ 18 และเชื่อว่าจะต้องมีรังที่ 19และรังที่ 20 ตามมาอย่างแน่นอนผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าว.