"เจ้าบ่าว" ยอมรับผิดอ้างมีเงินเพียง 2 หมื่นบาท เตรียมเข้าขอขมาต่อครอบครัวเจ้าสาว
29 มิ.ย. 2563, 12:53
วันที่ 29 มิถุนายน 2563 นางสาวเอ อายุ 26 ปี เจ้าสาวเล่าทั้งน้ำตาว่า เติมทีผู้ชายเคยมีครอบครัวแล้วและมีลูกสาวอายุ 10 ขวบจำนวน 1 คน แล้วเลิกรากันไปนานแล้ว ซึ่งครอบครัวเขาอยู่ที่จังหวัดกาญจนบุรี และไม่มีการติดต่อกับครอบครัวเก่า ส่วนค่าสินสอดในการแต่งงานนั้น ผู้ชายเป็นคนเสนอให้เงินจำนวน 1 แสน ทอง 10 บาท ส่วนค่าใช้จ่ายในการจัดงานและโต๊ะจีนนั้นเกือบ 1 แสนบาทเจ้าสาวเป็นฝ่ายดูแล แล้วบอกว่าจะเข้ามาช่วยเหลือค่าใช้จ่ายส่วนต่างๆตามหลัง โดยสั่งให้ตนเองจากงานไปก่อน ส่วนสาเหตุที่เจ้าบ่าวหายตัวไปนั้น ฝั่งเจ้าบ่าวอ้างว่า ญาติพี่น้องไม่สามารถจะมาร่วมงานแต่งได้ ทางเจ้าสาวก็เลยเสนอบอกให้เจ้าบ่าวโอนค่าสินสอดมาเพื่อแสดงความมั่นใจ แล้วก็มาพบญาติผู้ใหญ่ทางฝั่งหญิงเพื่ออธิบายเหตุการณ์ทุกอย่าง โดยฝั่งเจ้าบ่าวอ้างว่ากำลังรอเงินเพื่อที่จะโอนให้ หลังจากนั้นก็ปิดเครื่องเงียบหายไป
ซึ่งก่อนหน้านั้นตนเองบอกให้เข้ามาคุยกับทางญาติผู้ใหญ่เพื่อที่จะหาวิธีแก้ไขปัญหา แต่ทางฝ่ายเจ้าบ่าวก็รับปากแต่ก็นิ่งเฉยและไม่ยอมเข้ามาเจรจาไกล่เกลี่ย อ้างว่าค่าสินสอดไม่พร้อมและญาติผู้ใหญ่ไม่พร้อม หลังจากนั้นจะเปลี่ยนจากงานแต่งเป็นงานทำบุญขึ้นบ้านใหม่บ้าน โดยตนเองรู้สึกเสียใจ อับอาย กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถ้าฝั่งเจ้าบ่าวมาชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมดก็พร้อมที่จะให้อภัยแต่จะไม่กลับไปเป็นเหมือนเดิม โดยเมื่อคืนที่ผ่านมาฝั่งเจ้าบ่าวมีการโทรศัพท์เข้ามาหา และพูดกับแม่ฝันเจ้าสาวว่า จะชดใช้ค่าเสียหายให้ทั้งหมด ในช่วงที่มีการคบหาดูใจกัน 3-4 เดือนที่ผ่านมา นิสัยใจคอก็เป็นคนร่าเริง ช่วยงานบ้าน เข้ากับคนในครอบครัวได้เป็นอย่างดี และก็ไม่รู้ว่าจะมีการหักมุมแบบนี้ ในส่วนที่ฝ่ายเจ้าบ่าวอ้างว่าไม่มีเงินมาแต่งนั่นโอนก็มีการสอบถามมาตลอดฝ่ายชายก็ยังมั่นใจ หลังจากนี้ได้มีการเข้าแจ้งความร้องขอให้ตำรวจเข้ามาดูแลเนื่องจากเกรงว่าฝ่ายเจ้าบ่าวจะเข้ามาข่มขู่หรือทำร้ายสั่งเจ้าสาว และครอบครัว
ด้านเจ้าบ่าว เปิดเผยทางโทรศัพท์ว่า สาเหตุที่ไม่ไปงานแต่งนั้น เพราะมีเงินสดอยู่เพียงแค่ 20,000 บาท ไม่เพียงพอกับการจ่ายค่าสินสอด อีกทั้งทางครอบครัวก็ยังไม่พร้อม แต่ตนเองอยากให้จัดงานไปก่อนซึ่งทางฝ่ายหญิงไม่ยินยอม หลังจากเกิดเหตุการณ์ขึ้นแล้วตนก็ยอมรับความผิดทุกอย่าง และอยากขอโอกาสฝ่ายหญิงอีกสักครั้ง เพื่อที่จะกลับไปเป็นเหมือนเดิม และขณะนี้กำลังพูดคุยกับทางครอบครัวว่าจะเข้าไปขอขมาในเร็ววันนี้ซึ่งตนไม่คิดจะหนี และฝากขอโทษทางครอบครัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด ทั้งนี้ตนกำลังจะเดินทางกลับบ้านที่จังหวัดกาญจนบุรีเขตรอยต่อจังหวัดสุพรรณบุรี