นทท. แห่สูดอากาศบริสุทธ์ ที่จุดชมวิวผาพญากูปรีชายแดนไทย-เขมร
30 มิ.ย. 2563, 17:27
เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. 63 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ที่จุดชมวิวผาพญากูปรี ซึ่งตั้งอยู่ริมถนนสายบ้านแซรไปร ช่องสะงำ ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ห่างจากจุดผ่านแดนถาวรไทย-กัมพูชา ช่องสะงำ ประมาณ 4 กม. พระครูโกศลสิกขกิจ หรือหลวงพ่อพุฒ วายาโม ประธานมูลนิธิหลวงปู่สรวง เจ้าคณะอำเภอภูสิงห์ (ธ.) และเจ้าอาวาสวัดไพรพัฒนา พร้อมด้วย นางชไมมาศ ชาติเมธากุล ประธานบริษัท สุขภัณฑ์คริสตินา (ประเทศไทย) จำกัด ดร.กัลยาณี ธรรมจารีย์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวศรีสะเกษ และนายกสมาคมเครือข่ายการท่องเที่ยว จ.ศรีสะเกษ ได้นำคณะพุทธศาสนิกชนและนักท่องเที่ยวทั่วไป มาเยี่ยมชมจุดชมวิวผาพญากูปรี ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีอากาศบริสุทธิ์รับสายลมเย็นสบายจากช่องโอโซน ซึ่งอยู่ติดกับเทือกเขาพนมดงรักชายแดนไทย – กัมพูชา ซึ่งจุดชมวิวนี้ พระครูโกศลสิกขกิจ หรือหลวงพ่อพุฒ วายาโม ร่วมกับ พล.ต.สนธยา ศรีเจริญ อดีต ผบ.กองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 ในขณะนั้น และทหารหน่วยเฉพาะกิจที่ 3 กองกำลังสุรนารี อบต.ไพรพัฒนา และทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันจัดสร้างขึ้นมา เพื่อต้องการให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งปรากฏว่า บรรยากาศในช่วงเย็นของวันนี้ ได้มีบรรดานักท่องเที่ยวพากันนำครอบครัว ญาติพี่น้องพากันเดินทางมาสูดอากาศบริสุทธิ์ที่พัดผ่านมาจากช่องโอโซนเทือกเขาพนมดงรักและชมบรรยากาศยามเย็นช่วงพระอาทิตย์อัศดรของผาพญากูปรีกันอย่างคึกคักมาก นักท่องเที่ยวทุกคนต่างมีสีหน้าสดชื่นที่ได้สูดอากาศบริสุทธิ์เข้าสู่ร่างกาย เป็นการเพิ่มพลังความสดชื่นให้กับตนเอง และต่างพากันบันทึกภาพความสวยงามของผาพญากูปรีไว้เป็นที่ระลึกและชมความสวยงามตามธรรมชาติของต้นน้ำห้วยสำราญที่กั้นระหว่าง อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ กับ อ.บัวเชด จ.สุรินทร์ ซึ่งห้วยสำราญเป็นลำห้วยสำคัญที่ไหลลงไปสู่ตัว จ.ศรีสะเกษ ทำให้ประชาชนชาวศรีสะเกษหลายอำเภอได้ใช้น้ำจากลำห้วยนี้ในการอุปโภคบริโภคมานานกว่า 100 ปีแล้ว
นางชไมมาศ ชาติเมธากุล ประธานบริษัทบริษัท สุขภัณฑ์คริสตินา (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ตนรู้สึกดีใจมากที่ได้มีโอกาสมาเที่ยวชมความสวยงามตามธรรมชาติของจุดชมวิวผาพญากูปรี ได้ชมแหล่งที่เป็นต้นน้ำห้วยสำราญ และได้สูดอากาศที่บริสุทธิ์พัดผ่านมาจากช่องโอโซนเทือกเขาพนมดงรัก ทำให้ตนรู้สึกว่า การที่ร่างกายได้รับอากาศบริสุทธิ์ทำให้ตนมีความสดชื่นมาก นับว่าจุดชมวิวพญากูปรีแห่งนี้ เป็นจุดชมวิวที่สำคัญของชนทั้ง 2 ชาติ ไทย - กัมพูชา ที่จะได้มาท่องเที่ยวชมความสวยงามและสูดอากาศที่บริสุทธิ์ ซึ่งตนมั่นใจว่า ในเร็ว ๆ นี้ คงจะมีสถานท่องเที่ยวบริเวณใกล้เคียงนี้เปิดขึ้นมาเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อโควิด - 19 ได้คลี่คลายเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ซึ่งจะทำให้การค้าและการท่องเที่ยวบริเวณนี้กลับมาคึกคักเช่นเดิม