วันที่ 1 กรกฎาคม 2563 เวลา 07.00 น. ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปสำรวจตามท่าเทียบเรือในพื้นที่ อำเภอแหลมสิงห์ อำเภอท่าใหม่ อำเภอขลุง และ อำเภอนายายอาม ซึ่งเป็นพื้นที่ติดชายทะเล และทำการประมงพบว่าชาวประมงพื้นบ้านที่เป็นเรือขนาดเล็ก และเรือขนาดใหญ่ ต่างนำเรือเข้ามาจอดริมชายหาด และตามท่าเทียบเรือ เพื่อหลบคลื่นลมในทะเล เนื่องจากในระยะนี้ในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี สภาพอากาศแปรปรวนมีคลื่นลมแรง และมีฝนตกต่อเนื่องทุกวัน ทำให้ชาวประมงพื้นบ้านไม่กล้าเสี่ยงที่จะนำเรือออกจับสัตว์น้ำในทะเล เพราะเกรงว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัย หรืออาจถูกคลื่นซัดทำให้เรืออับปางได้ ทำให้ชาวประมงพื้นบ้านเลือกที่จะนำเรือมาจอดหลบคลื่นลมในทะเล และต้องใช้เวลาช่วงนี้มรสุมเข้าซ่อมแซมเรือ เตรียมอุปกรณ์ต่างๆให้พร้อมหากคลื่นลมในทะเลสงบ ชาวประมงพื้นบ้านก็จะได้นำเรือออกทะเลจับสัตว์น้ำได้ทันที ทั้งนี้ทางกรมอุตินิยมวิทยาได้ออกประกาศเตือนคลื่นลมในทะเลจังหวัดจันทบุรี ตรวจพบกลุ่มเมฆฝนกำลังอ่อนบริเวณชายฝั่ง จังหวัดจันทบุรี และตราด ส่งผลทำให้บริเวณชายฝั่งท้องฟ้ามีเมฆมาก มีฝนตกแถบชายฝั่ง อำเภอท่าใหม่ อำเภอขลุง และอำเภอแหลมสิงห์ เตือนคลื่นลมในทะเลจังหวัดจันทบุรี มีคลื่นสูงประมาณ 1-2 เมตร เรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง

 

 

 

นอกจากนี้ ทางองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีพื้นที่ติดแนวชายทะเล และแหล่งท่องเที่ยวทางทะเล ได้มีการนำป้าย และธงแดงมาติดเตือนตามแนวชายหาด เพื่อเตือนห้ามประชาชน และนักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำทะเลในระยะนี้ เนื่องจากมีคลื่นสูง และลมแรง นักท่องเที่ยวอาจจะเกิดอันตรายถูกคลื่นซัดจมน้ำเสียชีวิตได้

ด้านนางอัจฉรา สุขสำราญ อายุ 49 ปี ชาวประมงพื้นบ้านในพื้นที่บ้านหัวแหลม อำเภอท่าใหม่กล่าวว่า ช่วงนี้มีพายุฝนในช่วงเช้ามืด ส่งผลทำให้คลื่นลมแรง ทำให้เรือประมงพื้นบ้านขนาดเล็กกว่า 200 ลำ ต้องจอดลอยลำอยู่ริมหาด รอช่วงจังหวะคลื่นลมสงบถึงจะออกวางอวนปูมาขายให้กับพ่อค้าแม่ค้า ทำให้ในช่วงนี้ต้องขาดรายได้มาหลายวันอีกด้วย