ศบค.เผยอียูไฟเขียว 14 ประเทศรวมไทย ให้เดินทางเข้าได้ตั้งแต่ 1 ก.ค.
1 ก.ค. 2563, 20:08
วันนี้ (1 ก.ค. 63) ณ ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ศบค.) โถงกลาง ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. แถลงสถานการณ์ประจำวัน และมาตรการในการควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) สรุปสาระสำคัญ ดังนี้
1. สถานการณ์ผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด -19) ในประเทศไทย
สถานการณ์ผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด -19) ในประเทศไทย มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2 ราย ในสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ ทั้ง 2 รายมาจากผู้ที่เดินทางกลับมาจากประเทศคูเวต ทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อยืนยันสะสมอยู่ที่ 3,173 ราย อยู่ในสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ 236 ราย หายป่วยแล้ว 3,059 ราย รักษาตัวอยู่ 56 ราย โดยยังไม่พบมีผู้เสียชีวิตเพิ่มตัวเลขยังอยู่ที่ 58 รายเท่าเดิม ทั้งนี้ พบว่าประเทศคูเวตเป็นประเทศที่พบอัตราการป่วยจากประเทศต้นทางมากที่สุดเป็นอันดับที่ 1 ร้อยละ 12.29 โดยคนไทยกลับมา 293 ราย มีการยืนยันผลตรวจเชื้อเป็นบวกไปแล้ว 36 คน และวันนี้ผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นมา 2 ราย
2. สถานการณ์ไวรัสโควิด-19 โลก
สถานการณ์ผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด -19) ของโลกว่า พบผู้ติดเชื้อยืนยันสะสมอยู่ที่ 10,585,152 ราย เพิ่มขึ้นวันเดียวถึง 176,000 กว่าราย โดยทาง WHO ได้คาดการณ์ว่าจะมีการเพิ่มขึ้นไปต่อเนื่อง ผู้ป่วยที่อาการหนักตัวเลขอยู่ที่ 57,788 ราย คิดเป็นร้อยละ 0.5 หายป่วยแล้ว 5,700,000 กว่าราย และเสียชีวิตไป 513,000 กว่าราย โดยสหรัฐอเมริกายังเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อยืนยันสะสมสูงที่สุดอันดับที่ 1 รองลงมาคือประเทศบราซิล ตามด้วยรัสเซีย อินเดีย ขณะนี้ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 96 ของโลกแล้ว
สำหรับประเด็นข่าวที่น่าสนใจในต่างประเทศ ขณะนี้สหภาพยุโรปอนุญาตประชาชนของ 14 (+1) ประเทศ ให้เดินทางเข้า EU ได้ ตั้งแต่ 1 กรกฎาคม 2563 โดยประเทศไทยเป็น 1 ใน 14 ประเทศที่ได้รับการคัดเลือกให้สามารถเดินทางเข้ากลุ่มประเทศในสหภาพยุโรปได้ ทั้งนี้ได้คัดเลือกด้วยเกณฑ์เดียวกันหมด คือใช้จำนวนผู้ป่วยในรอบ 14 วัน แนวโน้มการติดเชื้อ และแนวทางของรัฐบาลแต่ละประเทศในการต่อสู้กับโรคระบาด เป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสิน
3. การดำเนินการตามมาตรการ
รายงานข้อมูลสรุปการใช้งาน www.ไทยชนะ.com ยอดสะสมตั้งแต่เริ่มโครงการ มีผู้ใช้งาน 32,493,784 คน ร้านค้าลงทะเบียน 251,700 ร้าน โดยสัดส่วนการเช็คอิน/เช็คเอาท์ผ่านแพลตฟอร์มไทยชนะอยู่ที่ร้อยละ 54.6 ผ่านแอปพลิเคชันไทยชนะร้อยละ 85.6 และจำนวนการดาวน์โหลดแอปพลิเคชันไทยชนะ 220,347 คน ทั้งนี้ มีข้อกำหนดให้กิจการกิจกรรมที่จะผ่อนคลายในระยะที่ 5 (กิจกรรมสีแดง) ได้แก่ ผับ บาร์ คาราโอเกะ รวมถึงกิจการอาบอบนวด โรงน้ำชา จะต้องลงทะเบียนแพลตฟอร์มไทยชนะ จึงจะสามารถเปิดให้บริการได้
แผนการนำคนไทยกลับจากต่างประเทศวันนี้ มีคนไทยเดินทางกลับมาจากโซมาเลีย 4 คน และไต้หวัน 404 คน วันพรุ่งนี้จะมีผู้เดินทางกลับจากสหรัฐอาหับเอมิเรสต์ 175 คน และจากอินโดนีเซีย 200 คน โดย แผนเที่ยวบินนำคนไทยที่ตกค้างกลับไทยในวันที่ 3 กรกฎาคม มี 1 เที่ยวบิน ได้แก่ อียิปต์ วันที่ 4 กรกฎาคม 4 เที่ยวบิน ได้แก่ เวียดนาม เยอรมนี เกาหลีใต้ และสหรัฐอเมริกา วันที่ 5 กรกฎาคม 1 เที่ยวบิน ได้แก่ ฟิลิปปินส์ วันที่ 6 กรกฎาคม มี 2 เที่ยวบิน ได้แก่ เกาหลีใต้ และสิงคโปร์ วันที่ 7 กรกฎาคม มี 4 เที่ยวบิน ได้แก่ จีน 2 เที่ยวบิน ญี่ปุ่น และแคเมอร์รูน และวันที่ 8 กรกฎาคม มี 3 เที่ยวบิน ได้แก่ จีน ฮ่องกง และอียิปต์ สำหรับรายงานผู้เดินทางกลับเข้าประเทศผ่านจุดผ่านแดนทางบกเดินทางจากมาเลเซีย 202 คน สปป.ลาว 5 คน และกัมพูชา 19 คน รวม 226 คน
ตั้งแต่ 3 เมษายน – 30 มิถุนายน ยอดคัดกรองผู้เดินทางเข้าประเทศที่ต้องกักกันตัวในที่กักกันของรัฐจัดให้ (State Quarantine และ Local Quarantine) มีจำนวน 50,220 ราย เพิ่มขึ้นวานนี้ 886 ราย กลับบ้านแล้ว 40,839 ราย เพิ่มขึ้นวานนี้ 678 ราย พบผู้ติดเชื้อจากสถานกักกันที่รัฐจัดให้ 236 ราย เพิ่มขึ้นวานนี้ 2 ราย รักษาหายและกลับบ้านได้แล้ว 180 ราย เพิ่มขึ้นวานนี้ 3 ราย
รายงานการตรวจกิจการ/กิจกรรมตามมาตรการผ่อนคลายด้านการดำเนินชีวิต วันที่ 30 มิ.ย. 63 ได้ทำการตรวจทั้งหมด 17,466 แห่ง พบกิจการ/กิจกรรมที่ปฏิบัติตามมาตรการไม่ครบ 3 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 0.02 และไม่มี “ไทยชนะ” 4,361 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 25 ซึ่ง ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคงได้มีการปรับลักษณะการตรวจ หากพบกิจการกิจกรรมที่ยังไม่มีการลงทะเบียนแพลตฟอร์มไทยชนะ ทางเจ้าหน้าที่จะให้การอบรม สอน และให้ลงทะเบียนทันที โดย มีชุดตรวจร่วม 90 ชุดตรวจ ชุดตรวจทั่วไป 1,811 ชุดตรวจ และชุดตรวจส่วนกลาง 148 ชุดตรวจ
Recommend News
MOST POPULAR
