จากกรณีนายไพโรจน์ เขียวแก้ว หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ กจ.19 (บ้องตี้) อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี หัวหน้าหน่วยปฏิบัติการพิเศษ อ.ไทรโยค ร่วมกับเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ กจ.1 (ท่าเสา) เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษป่าไม้กาญจนบุรี เจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า มว.ลว.ที่ 3 เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอไทรโยค เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 136 ร.ต.อ.สุวัฒน์ ห้วยหงส์ทอง รอง สว.กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.)และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดป้องกันปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ปทส.ภ.7) นำกำลังเข้าตรวจยึด ไม้ท่อนหวงห้ามประเภทไม้ประดู ไม้คาง ไม้ตะเคียนหนู และไม้เกว้า รวมจำนวน 22 ท่อน ปริมาตรรวมกัน 11.57 ลูกบาศก์เมตร คิดเป็นเงินค่าภาคหลวงจำนวน 505.80 บาท คิดเป็นเงินที่รัฐเสียหาย จำนวน 154,700  บาท เหตุเกิดเมื่อวันที่ 25 มิ.ย.ที่ผ่านมาที่บริเวณป่าบ้านทุ่งฉาง ซึ่งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าวังใหญ่และป่าแม่น้ำน้อย ท้องที่ หมู่ 4 ต.ศรีมงคล อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี โดยไม้ทั้งหมดเป็นของพระสยาม เปลี่ยนสี หรือพระอาจารย์ดำ เจ้าอาวาสวัดหนองปลาซิว หมู่ 6 ต.ศรีมงคล ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้ว

 

ล่าสุดวันนี้ 2 ก.ค.63 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ได้รับการเปิดเผยจากนายไพโรจน์ เขียวแก้ว หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ กจ.19 (บ้องตี้) ว่า เมื่อวันที่ 1 ก.ค.63 ที่ผ่านมา กำลังเจ้าหน้าที่ข้างต้นได้ร่วมเดินทางไปตรวจหาสิ่งผิดกฎหมายเพิ่มเติมภายในวัดหนองปลาซิวอีกครั้งหนึ่ง ครั้งนี้ได้ประสานนายไพฑูรย์ ทันใจชน กำนันตำบลศรีมงคล  เข้าร่วมตรวจสอบด้วย

 

เมื่อคณะเจ้าหน้าที่เดินทางไปถึงพบนายไพฑูรย์ รออยู่แล้ว และได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบว่าพระสยาม  เปลี่ยนสี หรือพระอาจารย์ดำ เจ้าอาวาสวัดหนองปลาซิว ไม่อยู่วัดและไม่ทราบว่าไปไหน ดังนั้นคณะเจ้าหน้าที่จึงได้กระจายกำลังกันตรวจค้นภายในวัดอย่างละเอียด

 

ผลการตรวจค้นปรากฏพบบริเวณถนนทางทิศตะวันออกของตัววัด มีร่องรอยการแปรรูปไม้ขี้เลื่อยซึ่งเป็นเศษไม้ที่เหลือจากการทำการแปรรูปเป็นจำนวนมาก ส่วนบริเวณใต้ถุนโบสถ์ที่ก่อสร้างยังไม่แล้วเสร็จ พบไม้สักแปรรูปซุกซ่อนอยู่นับรวมกันได้ จำนวน 221 แผ่น ภายในห้องเก็บของพบเลื่อยโซ่ยนต์ จำนวน 2 เครื่อง และที่บริเวณอาคารที่อยู่ทางด้านทิศตะวันตกของตัววัด พบไม้หวงห้ามแปรรูป จำนวน 328 แผ่น รวมไม้แปรรูปของกลาง 549 แผ่น ปริมาตรรวมกัน 8.158 ลบ.ม.คิดเป็นเงินค่าภาคหลวง 1,662.08 บาท รัฐเสียหายเป็นเงินจำนวน 626,160 บาท

 

โดยหน้าตัดของไม้แปรรูปทุกแผ่น ไม่พบรูปรอยดวงตราใดๆของพนักงานเจ้าหน้าที่ตีประทับไว้แต่อย่างใด  จึงเป็นอันแสดงได้ว่า ได้ไม้นั้นมาโดยมิชอบด้วยกฎหมาย คณะเจ้าหน้าที่จึงใช้ดวงตรา ต. 9816 ย. 1976 ตีประทับไว้ที่หน้าตัดของไม้ทุกแผ่น เพื่อแสดงการตรวจยึดไม้ของคณะเจ้าหน้าที่

 

จากนั้นจึงเคลื่อนย้ายไม้แปรรูปของกลางทั้งไปเก็บรักษาไว้ที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ กจ.19 (บ้องตี้) วันเดียวกันตนได้เดินทางไปร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน สภ.ไทรโยค เพื่อให้ดำเนินคดีต่อพระสยาม เปลี่ยนสี หรือพระอาจารย์ดำ เจ้าอาวาสวัดหนองปลาซิว ในข้อหาตามพระราชบัญญัติป่าไม้พุทธศักราช 2484 มาตรา 48 ฐาน ห้ามมิให้ผู้ใดแปรรูปไม้ในเขตควบคุมการแปรรูปไม้ และมีไม้หวงห้ามแปรรูปไว้ในครอบครองเป็นจำนวนเกิน 0.20 ลูกบาศก์เมตร โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ และกระทำผิดตามพระราชบัญญัติเครื่องเลื่อยโซ่ยนต์ พุทธศักราช 2545 มาตรา 4 ฐานห้ามมิให้ผู้ใดครอบครองหรือนำเข้าเครื่องเลื่อยโซ่ยนต์ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนเลื่อยโซ่ยนต์ การดำเนินคดีในครั้งนี้ คณะเจ้าหน้าที่มอบหมายให้ ร้อยตรีปฐวีกานต์ สุทธิแพทย์ เจ้าหน้าที่ทหารหน่วยดูแลพื้นที่ฝึกทางยุทธวิธีกองทัพภาคที่ 1 เป็นพยานในคดีนี้” นายไพโรจน์ เขียวแก้ว เผย