ความคืบหน้ากรณีมีผู้เสียหายหลายราย ร้องเรียนว่าซื้อทองรูปพรรณจากเพจจีจี้ปีโป้ จากร้านเพชรทองศิวาลัย โดยมีนายธีรชัย คงทอง หรือ จีจี้ปีโป้ ไลฟ์สดขายทองราคาถูก แต่พอได้รับทองกลับน้ำหนักไม่ตรงตามที่ขายและ ยังถูกหักค่าเปอร์เซ็นต์จำนวนมาก 

จากการตรวจสอบที่ร้านเพชรทองศิวาลัย ซอยลาดพร้าว105 ซึ่งเป็นร้านทองของจีจีปีโป้ ได้ปิดให้บริการ ที่ตู้โชว์ทองไม่มีทองแม้แต่เส้นเดียวววางขายเหมือนร้านทองทั่วไป ข้างๆร้านก็ถูกตกแต่งเป็นสตูดิโอจำหน่ายและให้เช่าชุดราตรี

 

ส่วนที่บ้านเช่าในซอยลาดพร้าว105 พบว่ามีเพียงรถหรู ป้ายแดงจอดทิ้งไว้ในบ้าน ซึ่งมีเพื่อนบ้านให้ข้อมูลว่า มีผู้เสียหายที่ซื้อทองไปคอยแวะเวียนมาที่บ้านและร้านเป็นประจำ เพื่อเปลี่ยนทองและขอเงินคืน หลังจากซื้อทองไปไม่ตรงกับที่ขาย

 

จากนั้นช่วงเย็น จีจี้ปีโป้ ได้แถลงข่าวชี้แจงระบุว่า ร้านตนเองมีทองหลายประเภท ทั้งน้ำหนักและเปอร์เซ็นต์ทองแตกต่างกันไป มีทั้ง 96.5 % กับ 99.99%  ซึ่งร้านนี้ตนเองเปิดมายาวนาน ยืนยันไม่มีการโกงลูกค้าอย่างแน่นอน ส่วนที่ต้องไลฟ์สดขายนั้นเป็นกลยุทธ์ทางการตลาด เพราะร้านนี้เป็นร้านเล็กๆ ต้องเรียกให้คนเข้าร้าน

 

ส่วนที่พูดเร็ว รัว จนถูกโจมตีว่ามีเจตนาโกงทำให้ลูกค้าสับสน ยืนยันว่าเป็นเทคนิคการขายของออนไลน์ของตนเอง แต่ถึงแม้จะพูดเร็วแต่ก็มีการชี้แจงลูกค้า และชูป้ายน้ำหนัก และเปอร์เซนต์ทองให้ทราบทุกครั้ง และมีการเคลียร์หน้าจอเมื่อเปลี่ยนชนิดทองเพื่อไม่ให้เกิดความสับสน ส่วนที่ต้องลบคลิปไลฟ์สดหลังขายเสร็จสิ้น เพราะมีกลุ่มมิจฉาชีพเข้าแฝงตัวในไลฟ์สดของตนเองอยู่บ่อยครั้ง ส่วนประเด็นการหัก 15% สำหรับลูกค้าที่ยกเลิก เมื่อมีการสั่งซื้อไปแล้วนั้น เพราะเป็นการประกันความเสี่ยง เพราะลูกค้ายกเลิกสั่งซื้อสินค้า ร้านก็จะมีผลกระทบทางธุรกิจจึงเป็นกติกาที่ตั้งไว้มานานแล้ว

ที่ผ่านมาที่ร้านตนเองมีปัญหาก็ได้พูดคุยและตกลงกับลูกค้ามาได้โดยตลอด และเข้าใจโดยดี เพราะทางร้านก็มีการชี้แจงกติการซื้อขายตลอด ไม่ได้มีหมกเม็ด ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นมากับลูกค้าคนที่โพสต์แฉ เป็นเพราะความไม่เข้าใจกติการการซื้อขายของร้านและฟังไลฟ์สดไม่เข้าใจเอง

 

โดยการแถลงข่าวจีจี้ได้นำคลิปตัวเต็มมายืนยันความบริสุทธิ์ ว่าไม่ได้พูดว่า ทองที่ขายไปหนัก 1 บาท ในราคา 16,800 บาท แต่เป็นทองคำน้ำหนัก 7.50 กรัม แต่ลูกค้ารายดังกล่าวเกิดความสับสนเอง แต่เมื่อลูกค้าติดต่อมาทางร้านก็เสนอให้เปลี่ยนชนิดทองซึ่งไม่มีค่าธรรมเนียมลูกค้าก็ไม่ยินยอม และก็เอาไปโพสต์

 

จึงอยากฝากถึงกลุ่มลูกค้าที่บอกว่าเป็นผู้เสียหายว่า ถ้าไม่ได้รับความเป็นธรรมสามารถพูดคุยเจรจาได้เพราะตนเองมีหน้าร้านชัดเจน ส่วนที่ร้านทองศิวาลัย มักถูกโจมตีมาตลอด ตนมองว่า น่าจะเกิดจากกลุ่มผู้ค้าออนไลน์บางกลุ่ม อาจจะไม่พอใจกับยอดขายของร้านตนเอง ที่มียอดสั่งซื้อจำนวนมากและขายในราคาที่ถูก อาจจะเป็นเหตุให้ถูกโจมตีอยู่บ่อยครั้ง

 

จึงได้ไปแจ้งความกับกลุ่มบุคคลที่ทำร้ายชื่อเสียงร้านของตนเองแล้ว แต่แม้ว่าถูกโจมตีอย่างหนัก ตนยืนยันว่า จะยังคงต้องไลฟ์สดขายทองรูปพรรณต่อไป แต่จะปรับเปลี่ยนวิธีการไม่ให้เกิดความสับสนให้เป็นปัญหาซ้ำอีก