"ลูกหนี้" สุดทน!! เจ้าหนี้คิดดอกเบี้ยโหด ร้อยละ 20 บุกโรงพักแจ้งความ
12 ก.ค. 2562, 16:55
ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ที่ สภ.นางลือ อ.เมือง จ.ชัยนาท กลุ่มบรรดาลูกหนี้นอกระบบ ในพื้นที่ ต.นางลือ อ.เมือง จ.ชัยนาท จำนวน 4 ราย ได้เดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์กับทางเจ้าหน้าที่ ตำรวจ สภ.นางลือ หลังจากที่ได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากไปกู้เงินนอกระบบ จากนายทุนเงินกู้ รายหนึ่ง ซึ่งเป็นคนในหมู่บ้าน แต่กลับถูกนายทุนเงินกู้คิดดอกเบี้ยแพงและไม่เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด และยังมีการข่มขู่ หากไม่จ่ายเงินรายวันตามที่นัดไว้
ซึ่งภายหลังจากการแจ้งความร้องทุกข์ของลูกหนี้เสร็จ ทางเจ้าหน้าที่ ธรรมาภิบาลจังหวัดชัยนาท พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน และเจ้าหน้าที่ทหาร ได้ทำการเข้าตรวจค้น บ้านของนายทุนเงินกู้คนดังกล่าว โดยอาศัย คำสั่งหัวหน้า คสช. ฉบับที่ 13 ซึ่งจากการตรวจค้นเบื้องต้นพบสมุดที่ใช้จดบันทึก การกู้ยืมเงินของลูกหนี้ จำนวน 2 เล่ม โดยมีรายละเอียดถึงข้อมูล ชื่อ จำนวนเงินที่กู้ยืม และการส่งเงินในแต่ละวัน วันละ 120 บาท ต่อวัน ของลูกหนี้ โดยจากการตรวจค้นดังกล่าวไม่พบสิ่งผิดกฎหมายอย่างอื่น และทางเจ้าหน้าที่ ชุดสืบสวน ได้นำหลักฐานดังกล่าวส่งยังพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
โดยนายจุมพฏ เจตน์จันทร์ ธรรมาภิบาลจังหวัดชัยนาท และ ว่าที่ ร.ต. อภิชัย รุ่งพึ่ง ประธาน โค้ว STROUG ปปช. จว.ชัยนาท เปิดเผยว่า เหตุเกิดจากที่มีชาวบ้านในพื้นที่ ม.9 ต.นางลือ อ.เมือง จ.ชัยนาท ได้เดินทางมาร้องทุกข์กับทางธรรมาภิบาลจังหวัดชัยนาท และศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดชัยนาท ถึงการให้ข้อมูลเกี่ยวกับนายทุนเงินกู้ในหมู่บ้านที่คิดดอกเบี้ยร้อยละ 20 ซึ่งลูกหนี้บางรายได้กู้เงินมา ส่งดอกจนเกินเงินต้นแล้ว แต่เงินต้นก็ยังคงอยู่เหมือนเดิม มีการเก็บเงินโดยลักษณะข่มขู่หากลูกหนี้ไม่มีเงินจ่าย และบางรายถูกทำร้ายร่างกาย ถูกตบ ซึ่งจากการที่ธรรมาภิบาล ได้ทำการสืบหาข้อมูลถึงนายทุนเงินกู้คนดังกล่าว และทราบว่ามีการปล่อยเงินกู้มานานแล้ว โดยผู้กู้จะไม่มีอะไรอยู่ในมือเป็นหลักฐานของการกู้ยืมเงิน จะมีหลักฐานเพียงอย่างเดียวก็คือ สมุดที่ว่าวันนี้เอาเงินมาคืนเท่าไหร่ และเซ็นชื่อเอาไว้ ซึ่งหากวันไหนไม่คืน เงินจำนวนดังกล่าวก็จะถูกไปทบกับเงินต้นที่กู้ยืมไป และมีผู้กู้บางรายที่ส่งไม่ไหว ถึงกับต้องหนีไป เพราะว่าจ่ายเงินมาเกินที่กู้เอาไว้แล้ว โดยลูกหนี้ที่มากู้เงินกับนายทุนเงินกู้รายนี้ มีประมาณ เป็น 10 ราย โดยจะปล่อยไม่เยอะ บางราย 2,000-5,000 บาท บางรายเป็น 10,000 บาทก็มี ซึ่งทุกรายจะถูกคิดอันตราการกู้ยืมเงิน ในอันตรา 100 ละ 20 บาท
ซึ่งหลังจากที่เจ้าหน้าที่ได้เข้าทำการตรวจค้นพบกับ พ่อและแม่นายทุนเงินกู้ โดยให้การว่า ตนเองไม่รู้เรื่องอะไรเลย หน้าจะเป็นลูกชายที่เป็นคนดำเนินการทั้งหมด และตอนนี้ได้หลบหนีไป ไม่ได้กลับมาบ้านแล้วเป็นเวลา เกือบ 2 เดือน ซึ่งการเก็บเงินกู้ลูกชายจะเป็นคนเก็บ และแม่ของนายทุนเงินกู้ ก็ให้การว่า ตนเองจะให้กู้กับคนที่รู้จัก เท่านั้น
โดยนางมยุรี จิตต์แจ้ง อายุ 38 ปี หนึ่งในผู้ที่ได้รับความเดือดร้อน เล่าว่า ตนเองเคยกู้ยืมเงินจากนายทุนเงินกู้คนดังกล่าว ปัจจุบันได้ใช้หนี้จนหมดแล้ว แต่มาเป็นคนค้ำประกันให้กับคนรู้จักกู้เงิน และการกู้เงินไม่มีหลักฐานการกู้ยืมเงินเลย แต่เงินที่กู้จะเป็นระบบดอกลอย คนที่กู้เงินมาจะส่งแต่ดอก ไม่ได้ส่งเงินต้น โดยคนกู้บางรายที่ตนเองค้ำประกันให้ ส่งไม่ไหว นายทุนเงินกู้ ก็ต้องมาเก็บเงินกับตน ซึ่งตนได้ขอพูดคุยเพื่อเจรจาไกล่เกลี่ยหนี้ เนื่องจากบางรายได้กู้เงินไปเป็นจำนวนมาก ตนเองไม่สามารถส่งแทนไหว และก่อนหน้านี้ นายทุนเงินกู้คนดังกล่าว ได้พูดคุยกับตนว่า หากใครที่ต้องการเงินก็ให้เข้ามาเอา ซึ่งวิธีคิดดอกของเจ้าหนี้คือ 200 บาทต่อวันและ ต่อยอดเงินกู้ยืม 10,000 บาท เก็บไปจนกว่าจะหาเงินต้นมาคืนได้ หากว่าส่งไป 200 บาท อยากที่จะคืนเงินต้น ก็ต้องจ่าย 1,200 บาท หากใครที่ไม่มีเงินส่ง นายทุนเงินก็จะเอาดอกเบี้ย 200 ดังกล่าว ไปบวกกับเงินต้น โดยลูกหนี้บางรายก็ต้องจำใจไปกู้เงินจากที่อื่นมาจ่ายคืน