จากความคืบหน้า เมื่อ 11 ก.ค. 62 ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พบชายสูงอายุประมาณ  70 ปี เดินทางตามลำพัง ในเวลาประมาณ 21.00 น. บริเวณตามไหล่ทาง ม.8 ถ.บายพาส ต.นาป่า อ.เมือง จ.ชลบุรี ฝั่งขาเข้า กทม. 

ผู้สื่อข่าวก็สอบถามทราบว่า ชื่อนายไพบูลย์ จิราภรณ์ อายุ 75 ปี เดินทางด้วยรองเท้าแตะ ไม่มีเงิน บอกว่า เดินเท้ามาเที่ยวที่ จ.ชลบุรี และกำลังจะเดินทางกลับบ้านที่ กทม. แต่จำไม่ได้ว่า บ้านไปทางไหน รู้เพียงแค่ว่า อยู่ใกล้วัดชิโนรส กทม. จากนั้นทางผู้สื่อข่าว ก็พยายามที่จะให้เดินไปที่ปั๊มน้ำมันใกล้ ๆ เพื่อให้พลเมืองดีหรือกู้ภัย ช่วยกันควบคุมไว้ ส่งตำรวจ เพื่อให้ตำรวจตามหาญาติ แต่ลุงก็วิ่งหนีหายไป

จนกระทั่ง ล่าสุดวันที่ 13 ก.ค. 62 มีพลเมืองดี โทรแจ้ง 191 ว่า พบคุณลุง ลักษณะคล้ายที่ออกข่าวในช่อง 8 และเสื้อมีลักษณะเสื้อยืดลายทางสีน้ำตาล เหมือนตัวที่ออกในข่าว ตำรวจ สภ.เสม็ด จึงได้ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจไปที่ บริเวณไหล่ทางเนินแม่กิมบ๊วย ขายของฝาก ต.ห้วยกรุ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี

เมื่อไปถึงพบว่า เป็นคุณลุงไพบูลย์ คนเดียวกับที่ออกข่าวช่อง 8 และที่ลูกชาย คือ นายสาธิต หรือ บอม จิราภรณ์ อายุ 37 ปี ทำงานบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ในกทม. ได้แจ้งความไว้ที่ สภ.เสม็ด

จากนั้น จึงเชิญตัวคุณลุง ไพบูลย์ มาไว้ที่ สภ.เสม็ด เพื่อรอนายสาธิต มารับ จนประมาณประมาณ 10.00 น. นายสาธิต ลูกชาย เดินทางมาพร้อมภรรยา มาที่ สภ.เสม็ด เพื่อมารับกลับบ้าน

เมื่อมาถึงก็นายสาธิต ก็ดีใจ เข้าหอมแก้ม กอดพ่อ และขอร้องว่า อย่าไปไหนไกล ลูกๆ และแม่เป็นห่วง เพราะเปแนโรคหลงๆลือม ความจำเสื่อมเป็นพัก ๆ หรือเรียกว่า โรคอัลไซเมอร์ ซึ่งเมื่อประมาณ 3 ปีที่แล้ว พ่อมีอาการความจำเสื่อม จึงนำตัวไปรักษาที่ รพ.สมเด็จเจ้าพระยา กทม. แพทย์วินิจฉัยว่า ป่วยจริง เป็นโรคความจำเสื่อม ให้ยามากินก็ไม่ยอมกิน แล้วมักจะขอบบอกว่า เดินกำลังกาย แล้วก็หายตัวไปทีละ 1 – 9 วัน โดยไม่ทราบว่าไปที่ไหน รู้แต่ว่า เดินทางไปตามถนนไปยังจังหวัดต่าง ๆ ใกล้เคียง พอเหมือนความจำกลับมา ก็นึกได้ว่าบ้านอยู่ไหน ก็จะว่าจ้างแท็กซี่กลับบ้าน และให้ไปเอาค่าแท็กซี่ที่บ้าน พออยู่บ้านได้ไม่กี่วัน ก็เดินหายไปอีก แบบนี้มาหลายครั้งหลายหน

ตนก็พยายามขอร้องพ่อว่า อย่าไปเลย แต่ก็ไม่เชื่อ ไม่รู้จะทำอย่างไรเหมือน เพราะปกติก็จะทำเสื้อไว้ โดยปักชื่อและเบอร์โทร ของ ตนไว้ แต่คราวนี้ ก็ไม่ยอมใส่อีกตามเคย   

จากนั้น ตร.ก็ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ก่อนจะปล่อยตัวให้ลูกชายรับลุงกลับบ้าน พร้อมบอกว่า ดูแลลุงให้มากกว่าเดิม กลัวหากไปเดินตามถนน เดี๋ยวรถชนตายจะยุ่งกว่านี้